“เชื่อมั่น เข้าใจ และกล้าเปลี่ยนแปลง” คติในการทำงานของ ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ

มีโอกาสแค่ 1% ก็สามารถเป็นได้ถ้าเราลงมือทำ ยิ่งช่วยกันยิ่งสร้างโอกาสได้มากขึ้น ไม่มีสิ่งไหนที่ได้มาง่ายๆ หรือสำเร็จเสมอไป เพราะเส้นทางแห่งความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ เหมือน.ในนิทาน ซึ่งกว่าคนเราจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องมีทั้งมุ่งมานะ ความพยายาม หรือมีอุดมคติที่แนวแน่อยู่พอตัว เพราะอุปสรรคระหว่างทางนั้นทำให้คนหลายคนไปไม่ถึงฝัน

ชีวิตการทำงานก็เช่นกัน จึงอยากนำเสนอคติประจำการทำงานของผู้นำท่านหนึ่งที่ชื่อว่า ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กบข. (กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ) หรือที่รู้จักในชื่อกองทุนว่า “กองทุนการออมเพื่อการเกษียณ” นั้นเอง เป็นกองทุนขนาดใหญ่ระดับประเทศที่ข้าราชการทุกคนคาดหวังและยินดีที่จะจ่ายค่ากองทุน ด้วยผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม

ศรีกัญญา ยาทิพย์ - กบข. - ภาพที่ 1

การทำงานนี้ไม่ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารกองทุนให้ได้กำไรสม่ำเสมอ การกำหนดทิศทางทางลงทุนในระยะยาว หรือคำนึกถึงภาพลักษณ์องค์กร หลายเรื่องต่างๆ นานา แต่ ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ ก็ไม่เคยย่อท้อ ยังคงยึดมั่นและแน่วแน่ต่ออุดมคติของตน เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ ด้วยแนวคิดที่ว่า “ต้องเชื่อมั่น เข้าใจในงาน และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง” จนนำไปสู่ความสำเร็จที่ทุกคนยอมรับในตำแหน่ง เลขาธิการ กบข.

ดร. ศรีกัญญา เข้าใจใน Pain Points และหาทางแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

ปัญหาหนึ่งในการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณนั้นก็คือ ออมน้อยเพราะระยะเวลาที่ออมทีต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะได้ใช้เงินก้อนที่ออมไว้ก็ต้องรอถึงตอนเกษียณอายุ 60 ปี ในแง่ของการเป็น ผู้บริหาร กบ ข เป็นคนบริหารกองทุน เราก็ต้องการลูกค้าสมาชิกที่มากขึ้น มีการฝากเงินมากขึ้น เพราะปลายทางนั้นยิ่งออมเยอะ จะได้เงินก้อนที่มากกว่าในแบบทวีคูณเลย ออมนานยิ่งเพิ่มกำไรส่วนต่างมากขึ้น จึงมีกลยุทธ์ที่ง่าย และให้เห็นภาพด้วยการทำแผนลงทุนแบบ Digital Twins

Digital Twins คือการทำโปรแกรมหนึ่งขึ้นมา และคำนวนผลปลายทาง ว่าออมเท่าไร จะได้เท่าไร ถ้ามากขึ้นจะได้เท่าไร ทำแผนการลงทุนมาเปรียบเทียบกัน มาแตกสองฝั่งเป็นคู่เสมือน เขาจะทดลองได้เสมือนจริงว่า หากเลือกอีกแผน ผลตอบแทนคู่ขนานจะเป็นเช่นไร ถ้าดูแล้วแผนคู่ขนานให้ผลตอบแทนระยะยาวดีกว่า เขาสามารถเปลี่ยนแผนได้เลย เป้าหมายคือ ให้สมาชิกเห็นทางเลือกที่ต่างกันชัดเจน สมาชิกจะสามารถมองเห็นเงินของตัวเองในปัจจุบันและอนาคต

นอกจากนั้นยังมีการทำคำนวณประมาณการให้ว่าสมาชิกอายุเท่านี้ เงินเดือนเท่านี้ ควรออมอย่างไร อยู่แผนไหนแล้วจะมีประสิทธิภาพที่สุด สมาชิกจะเห็นประมาณการ 3 คู่ขนานกันไป เป็น Total Solution ทุก Pain Points เพราะสมาชิกจะเกิดการเรียนรู้ เข้าใจเรื่องแผนและผลตอบแทนการลงทุน

ซึ่งหากยุทธศาสตร์นี้สำเร็จ เชื่อว่าความเข้าใจในเรื่อง กบ ข. จะชัดเจนมากขึ้น คนจะสนใจลงทุนมากขึ้น เพราะผลตอบแทนการลงทุนจะมากหรือน้อยอยู่ที่ว่าเขาเลือกแผนอะไร และเหมาะสมตามภาวะนั้นๆ หรือไม่ การออมเพิ่มคือคันเร่ง แต่ต้องเร่งให้ถูกจังหวะ

สร้างความ “เชื่อใจ ไว้ใจกันและกัน” จุดเริ่มต้นในการลงทุน
ก่อนที่จะเข้ามารับหน้าที่ เลขาธิการ กบข. ดร.ศรีกัญญา เคยทำงานอยู่ในฝั่งสมาชิกและทำงานรีเสิร์ชเป็นหลัก จึงเข้าใจ Insights ของสมาชิก สิ่งที่ตระหนักเลยคือ การให้ความรู้สมาชิก กบข. ไม่ใช่ไปโฟกัสเรื่องการวางแผนการออมเพื่อการเกษียณเรื่องเดียว ต่อให้เขารู้ว่าหลังเกษียณต้องมีเงินเท่าไร ถ้าเขาไม่ไว้ใจเขาก็ไม่ออมกับเรา มีเงินเหลือก็เอาไปไว้ที่อื่น

จึงต้องเริ่มด้วยการให้ความรู้เรื่องการลงทุน ทำให้เขาเข้าใจเราก่อนว่า กบข. ลงทุนอย่างไร มีการบริหารจัดการแบบไหน ควบคุมดูแลอย่างไร เราเรียกตรงนี้ว่า Investment Literacy พอเขารู้ เข้าใจเราแล้ว เขาก็จะเชื่อใจเราและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราบอก

อีกเรื่องคือ การปรับแนวทางการตอบคำถามกับลูกค้าสมาชิกให้ตอบแบบตรงไปตรงมา อันไหนดีเราก็แนะนำเขาไปแบบจริงใจ ทำให้เขารู้สึกเชื่อใจเรา และหลักการตอบของเราก็มีข้อมูลยืนยันไม่มีการโกหก เพราะหน้าที่เราคือทำให้เขาเข้าใจและเชื่อใจ” แล้วเดี๋ยวการวางแผนเพื่อการเกษียณจะตามมาเอง

“กล้าเปลี่ยนแปลง องค์กร” เริ่มจากผลักดันพนักงานให้เติบโตเพื่อเป็นพลัง ทำงาน กบ ข

เชื่อว่ามีหลายคน ชอบบอกว่าการเปลี่ยนงานจะทำให้เติบโตและก้าวหน้าได้ แต่เราอยากบอกว่าไม่จริงเสมอไป องค์กรสมัยใหม่จะไม่เป็นอย่างนั้น ด้วยการที่ ดร.ศรีกัญญา อยู่องค์กรนี้มานาน จึงเข้าใจคนในองค์กรอย่างดีว่ามีความสามารถอย่างไรบ้าง และค่อยเปิดโอกาสให้คนในองค์กรเติบโตในหน้าที่การงานและเติบโตในจิตวิญญาณของตนเอง คอนเซปต์คือ เราต้องการกระตุ้นคนในองค์กรให้กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง

เริ่มจากการดูตำแหน่งที่ว่างทั้งหมดในองค์กร คำนวนเรื่อง เงินเดือน พนักงาน กบ ข ให้อย่างสมเหตุสมผล หรือหัวหน้างานที่ใกล้จะเกษณียณแล้ว มานัดประชุมคุยงานกัน แบบว่าตำแหน่งที่ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ต้องเก่งด้านไหน ใครที่เหมาะสมในองค์กร หรือถ้าหากใครที่สนใจ อยากเติบโตก็สามารถมาสมัครได้เลย ทำให้องค์กรเปิดรับจากคนภายในก่อน เพื่อผลักดันพนักงานให้เติบโตได้

เรายังให้พนักงานที่เคยเปลี่ยนสายงานมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยว่าอุปสรรค ความท้าทายคืออะไร สุดท้ายตอนนี้เขารู้สึกยังไงกับการได้ย้ายสายงาน ที่ผ่านมาก็จะมีทั้งโปรโมต ย้ายฝ่าย เราอยากให้เขารู้สึกว่าแม้จะเป็นองค์กรเล็กๆ คุณก็มีโอกาสเติบโตข้ามสายงานได้ บางทีในสายงานเราอาจโตไม่ได้ อย่าไปคิดว่าชีวิตเรามีแค่นี้ ยังมีโอกาสตรงอื่นให้ลองค้นหาดู”

หากว่าตัวเองยังไม่มีคติในการทำงาน ลองนำเรื่องราวของ ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมาก และนำไปปรับใช้ในการทำงานได้ เชื่อว่าทุกคนมีคติประจำตัวในการทำงานของตัวเองอยู่แล้ว แค่นำไปปรับใช้เท่านั้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ถูกโพสต์ หรือเขียนขึ้นโดย: PRMANIA

ทางทีม Digitalmore ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเขียนข่าวหรือโพสต์ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เว็บเป็นเพียงสื่อกลาง ที่เปิดให้เจ้าของข่าวประชาสัมพันธ์หรือตัวแทนโดยชอบธรรมได้โพสต์ด้วยตัวเอง

ติดตามเพจ