- สมัคร LazPayLater ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง
- สินเชื่อ Shopee SPayLater | ผ่อนของ Shopee ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง
- โปรโมชันส่งฟรี Shopee เดือนนี้ ปี 2566
- Xiaomi Mi Speaker 3 ลำโพงบลูทูธตัวละ 249 บาท เสียงดีมาก
- Lazada Electronics แจกคูปอง 350.- คูปองเงินคืน 20% + คูปองส่งฟรี
- LazBEAUTY เครื่องสำอางลดราคา เงินคืนสูงสุด 50%
พูดถึงเมนูเบเกอรี่หลายคนก็ต้องนึกไปถึงรสชาติหวานหอมอร่อยที่ส่งตรงออกมาจากเตาอบขนม สำหรับสายหวานหลายคนเชื่อว่าต้องมีสักครั้งที่อยากจะลองทำเมนูเบเกอรี่อร่อย ๆ ทานเอง ทำให้แฟน ทำให้คนที่บ้าน หรือแม้กระทั่งทำขายเพื่อต่อยอดเป็นธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านเบเกอรี่ สร้างรายได้เสริมจากเมนูเบเกอรี่ที่ทำเองที่บ้านได้
แต่สำหรับมือใหม่ที่แค่เริ่มคิดว่าจะหัดทำเมนูเบเกอรี่เอง หลายคนก็ต้องมาท้อใจกับบรรดาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ในการทำเมนูเบเกอรี่ที่ต้องซื้อต้องหา เช่น เตาอบขนม อุปกรณ์ขั้นพื้นฐานสำหรับการทำเมนูเบเกอรี่ที่จะขาดไม่ได้
แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วก็มีเมนูเบเกอรี่หลายเมนูที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เตาอบหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ให้ยุ่งยาก ทำเองได้ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องใช้เตาอบ ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ให้วุ่นวาย ถึงจะเป็นมือใหม่ก็ทำง่ายแถมยังอร่อย จะทำทานเองก็สบาย หรือจะทำขายก็สนุก รีบตามไปดูกันเลย! กับ 5 เมนูเบเกอรี่ทำง่าย ไม่ต้องใช้เตาอบ สำหรับมือใหม่หัดทำ รับรองว่าทำง่ายและอร่อยจริง!
5 เมนูเบเกอรี่ทำง่าย ไม่ต้องใช้เตาอบ สำหรับมือใหม่หัดทำ
เค้กมูสช็อกโกแลต
ขอบคุณรูปภาพจาก carlocao.com
สิ่งที่ต้องเตรียม
- วิปปิ้งครีมอุ่นร้อน 100 กรัม
- ผงโกโก้ 20 กรัม
- นมสดรสจืด 550 กรัม
- น้ำตาล 60 กรัม
- แป้งข้าวโพด 27 กรัม
- ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
วิธีทำ
- ร่อนผงโกโก้ผ่านกระชอนลงในวิปปิ้งครีมที่อุ่นร้อนเรียบร้อยแล้ว คนให้เข้ากันแล้วนำไปพักไว้
- นำนมสดรสจืด น้ำตาล และแป้งข้าวโพด มาผสมรวมกันในชามแยก คนให้เข้ากัน
- นำผงโกโก้ที่ผสมกับวิปปิ้งครีมเอาไว้แล้ว มาผสมรวมกับนมสดรสจืด น้ำตาล และแป้งข้าวโพด คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำไปใส่ในหม้อต้มโดยกรองเอาเศษผงโกโก้ออกให้หมดเพื่อให้ได้เนื้อเค้กเนียนนุ่ม ต้มด้วยไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ
- ใส่ดาร์กช็อกโกแลตลงไปและคนต่อไปจนดาร์กช็อกโกแลตละลาย และส่วนผสมทั้งหมดมีความข้นเข้ากันดี
- นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงในแม่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข โดยกรองเอาเศษช็อกโกแลตออกให้หมด
- พักทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง และนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- เมื่อนำออกมาจากตู้เย็นแล้ว สามารถตกแต่งโดยโรยผงโกโก้ลงไปบนตัวเค้กเพื่อเพิ่มความน่าทาน
บราวนี่ไมโครเวฟ
ขอบคุณรูปภาพจาก tasty.co
สิ่งที่ต้องเตรียม
- เนย 20 กรัม
- ดาร์กช็อกโกแลต 30 กรัม
- น้ำตาล 30 กรัม
- นมสดรสจืดที่อุณหภูมิห้อง 20 กรัม (ไม่แนะนำให้ใช้นมแช่เย็น)
- แป้งอเนกประสงค์ 45 กรัม
- เกลือ
- ดาร์กช็อกโกแลตสำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
- หั่นดาร์กช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปผสมกับเนยในชามผสม
- ละลายส่วนผสมในไมโครเวฟ ใช้เวลา 30 วินาที นำออกมาจากไมโครเวฟและคนให้เข้ากัน
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วเติมน้ำตาลลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วเติมนมสดรสจืด แป้งอเนกประสงค์ และเกลือลงไป คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เตรียมภาชนะที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ รองด้วยกระดาษไข จากนั้นเทส่วนผสมลงไป
- โรยหน้าด้วยดาร์กช็อกโกแลตที่บิหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือเศษดาร์กช็อกโกแลตตามชอบ
- นำไปอบในไมโครเวฟ ใช้เวลา 1 นาที หากยังไม่ได้ที่สามารถอบต่อได้อีก 15 วินาที หรือค่อย ๆ ดู ไม่ควรใช้เวลาอบนานจนเกินไป
- สามารถนำบราวนี่ไปแช่ตู้เย็นก่อนทาน หรือจะรอให้คลายร้อนประมาณ 15 นาทีแล้วทานเลยก็ได้เช่นกัน
บานอฟฟี่
ขอบคุณรูปภาพจาก bakingbarbarine.at
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับทำคาราเมล
- น้ำตาลทราย 65 กรัม
- ครีมสด 75 กรัม
- เนยจืด 50 กรัม
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับทำฐานบานอฟฟี่
- บิสกิต (ยี่ห้อใดก็ได้) 120 กรัม
- เนยจืด 65 กรัม
- วิปปิ้งครีม 150 กรัม
- กล้วยหอม 1-2 ลูก
- ผงโกโก้
วิธีทำ
- ตั้งหม้อโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำตาลทรายลงไปและรอให้ละลายโดยไม่ต้องคน รอจนเป็นสีน้ำตาลอ่อนสวย
- ปิดไฟ ใส่ครีมสดและเนยจืดลงไป คนเร็วๆ ให้เข้ากันดีแล้วพักทิ้งไว้
- นำเนยจืดไปละลายในไมโครเวฟ จากนั้นนำออกมาผสมกับบิสกิตที่บดหรือปั่นจนละเอียด
- นำบิสกิตลงไปในแม่พิมพ์แล้วใช้ช้อนกดให้แน่น นำไปแช่ตู้เย็นเป็นเวลา 30 นาที
- นำครีมสดมาตีในชามแยก
- นำแม่พิมพ์ที่มีฐานบิสกิตออกมา ราดคาราเมลลงไป จากนั้นใส่กล้วยหอมที่หั่นเป็นชิ้น บีบวิปครีม จากนั้นโรยผงโกโก้ลงไปตามชอบ
บลูเบอร์รี่ชีสพาย
ขอบคุณรูปภาพจาก celebratingsweets.com
สิ่งที่ต้องเตรียม
- บิสกิต (ยี่ห้อใดก็ได้) 100 กรัม
- เนยสดชนิดเค็ม 1 ก้อน
- ครีมชีส 1 ก้อน
- นมข้นหวาน 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว ½ ช้อนโต๊ะ
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ถ้วย
- บลูเบอร์รี่
วิธีทำ
- บดหรือปั่นบิสกิตให้ละเอียด
- นำเนยสดชนิดเค็มไปละลายในไมโครเวฟ จากนั้นนำไปผสมกับบิสกิตที่บดหรือปั่นจนละเอียดแล้ว
- นำบิสกิตที่ผสมเนยละลายไปใส่ในแม่พิมพ์เป็นฐาน ใช้ช้อนกดให้แน่นแล้วพักไว้
- ใส่ครีมชีส โยเกิร์ตรสธรรมชาติ นมข้นหวาน และน้ำมะนาวลงไปในชามแยก ตีให้เข้ากัน
- นำครีมชีสที่ผสมเสร็จแล้วใส่ลงในแม่พิมพ์ที่มีฐานบิสกิต แต่งหน้าด้วยบลูเบอร์รี่ปริมาณตามชอบ
- นำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัว หรือสามารถทานได้เลยโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น
สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก
ขอบคุณรูปภาพจาก bbc.co.uk/food
สิ่งที่ต้องเตรียม
- บิสกิต (ยี่ห้อใดก็ได้) 194 กรัม
- เนยจืดละลาย 50 กรัม
- เจลาตินชนิดผง 8 กรัม
- น้ำร้อน 25 มิลลิลิตร
- ครีมชีส 400 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
- กลิ่นวานิลลา
- วิปปิ้งครีม 200 กรัม
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสดรสจืด 75 มิลลิลิตร
- สตรอว์เบอร์รี่หั่นครึ่ง
วิธีทำ
- นำบิสกิตไปบดหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นเติมเนยจืดที่ละลายแล้วลงไป บดหรือปั่นต่อจนเนื้อละเอียดเข้ากันดี
- นำบิสกิตที่บดผสมกับเนยจนละเอียดแล้วใส่ลงในแม่พิมพ์ ใช้ช้อนกดเนื้อบิสกิตให้แน่นเพื่อใช้เป็นฐานเค้ก นำไปแช่ตู้เย็นเป็นเวลา 30 นาที
- ผสมเจลาตินชนิดผงกับน้ำร้อนในชามแยก คนให้เข้ากันแล้วนำไปพักไว้
- นำครีมชีสไปตีในชามแยกจนได้เนื้อเนียนละเอียด จากนั้นใส่น้ำตาลไอซิ่งตามลงไป ตีต่อจนเนื้อละเอียดเข้ากันดี
- เติมกลิ่นวานิลลาและเจลาตินที่ละลายกับน้ำร้อนเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ลงไป ตีต่อจนเข้ากันดีแล้ววางพักไว้
- ผสมวิปปิ้งครีมและน้ำตาลในชามแยก ตีจนเนื้อวิปปิ้งครีมนุ่มฟู
- นำครีมชีสที่ผสมไว้แล้วมาใส่ลงในชามวิปปิ้งครีมที่ตีจนขึ้นฟู ตีจนเนื้อละเอียดเข้ากันดี
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว เติมนมสดรสจืดลงไปแล้วตีต่อจนเข้ากัน
- นำสตรอว์เบอร์รี่ที่หั่นครึ่งแล้วมาวางเรียงในแม่พิมพ์ที่มีบิสกิต โดยวางให้ชิดด้านข้างของแม่พิมพ์ หากมีสตรอว์เบอร์รี่เหลือสามารถวางไว้ตรงกลางแม่พิมพ์ได้
- ใส่ครีมชีสลงไปในแม่พิมพ์ ระวังไม่ให้สตรอว์เบอร์รี่ล้มกระจัดกระจาย ปาดครีมชีสให้เต็มแม่พิมพ์ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง นำออกมาหั่นเป็นชิ้น หรือตกแต่งสตรอว์เบอร์รี่ด้านบนตามชอบ