การรักษาตามศาสตร์ของการแพทย์แผนจีนนั้น ส่วนใหญ่คนจะรู้จัก และนึกถึงแต่การฝังเข็ม แต่ความจริงแล้ว การรักษาตามศาสตร์ของการแพทย์แผนจีน ยังมีการครอบแก้ว หรือครอบกระปุก ซึ่งเป็นวิธีการรักษาโดยใช้กระปุกมาลนไฟให้ร้อน เพื่อไล่อากาศออก จากนั้นจึงครอบกระปุกลงบนผิวหนัง ซึ่งจะมีแรงดูดจากสุญญากาศทําให้เกิดเลือดคั่งขึ้นในบริเวณนั้น อุปกรณ์ครอบจะติดแน่นกับบริเวณผิว และดึงกล้ามเนื้อ เส้นประสาท เส้นเลือด ที่อยู่ถายใต้ บริเวณที่ครอบ ทําให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาท ฮอร์โมน และทําให้ระบบหมุนเวียนเลือดสมดุล ไม่ติดขัด ซึ่งการทำการครอบแก้ว สามารถรักษาได้หลายโรค ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการครอบแก้ว และโรคที่เหมาะกับการรักษาด้วยการครอบแก้วกันค่ะ
ที่มา: verywellhealth.com
การครอบแก้ว รักษาโรค
การครอบแก้ว (Cupping Therapy) เป็นการบำบัดรักษาทางเลือกของแพทย์แผนจีนชนิดหนึ่ง โดยนำถ้วยแก้วแบบเฉพาะมาวางไว้บนผิวหนังพร้อมกับใช้ความร้อนให้แก้วดูดผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อขึ้นมา ซึ่งจะช่วยบำบัดรักษาอาการป่วยได้หลากหลาย เช่น บรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยการไหลเวียนโลหิต การอักเสบ การผ่อนคลาย และเพื่อสุขภาพที่ดี รวมไปถึงเป็นการลงลึกไปถึงชั้นเนื้อเยื่อ หรือช่วยในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
การครอบแก้ว เมื่อมองตามหลักวิทยาศาสตร์ คือการใช้สูญญากาศ ครอบไปยังบริเวณผิวหนัง การที่ผิวหนัง ถูกดูดด้วยแก้วที่เป็นสูญญากาศจะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้นอย่างมาก เป็นการปั๊มเลือดเข้าสู่ กล้ามเนื้อบริเวณที่ทำการครอบเเก้ว หลอดเลือดฝอยขยายตัวขึ้น นำมาสู่การที่เนื้อเยื่อได้รับเลือดออกซิเจน มากขึ้น กระบวนการซ่อมแซมจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา: cascadehealthclinic.org
โรคที่เหมาะกับการรักษาด้วยการครอบแก้ว
- โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง หอบหืด ปอดบวม ปอดอักเสบ ภูมิแพ้อากาศ
- โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอักเสบเฉียบพลัน และเรื้อรัง อาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดเกินในกระเพาะอาหาร
- โรคระบบหมุนเวียนเลือด ความดันโลหิตสูง โรคโลหิตจาง
- โรคทางกระดูก และข้อ เช่น ปวดกระดูกต้นคอ ข้อไหล่ปวดไหล่สะบัก ปวดข้อศอก ข้อต่อต่าง ๆ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดก้นกบ ปวดสะโพก หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- โรคระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน โรควิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า อัมพาตบนใบหน้า
การเตรียมตัวก่อนทำครอบแก้ว
ก่อนทำการครอบแก้ว ควรเตรียมตัวให้พร้อมโดยการรับประทานอาหารตามปกติ ควรรับประทานอาหารมาก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมง และไม่ควรรับประทานอาหารอิ่มจนเกินไป หากมีโรคประจำตัวสามารถรับประทานยาได้ตามปกติ
การปฏิบัติตัวหลังครอบแก้ว
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น ควรดื่มน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเป็นเวลา 1 วัน
- งดอาบน้ำ หรือตากแอร์เย็นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากครอบแก้ว
- ควรพักผ่อนหลังจากครอบแก้ว เพราะการครอบแก้วอาจทำให้ผู้ป่วยบางรายเกิดอาการอ่อนเพลียได้
- อาการผิดปกติที่ควรโทรสอบถาม หรือมาพบแพทย์ เช่น มีอาการบวม แดง แสบร้อน มากผิดปกติ ปวดรุนแรงบริเวณจุดครอบแก้ว หรือมีไข้สูง
- โดยเฉลี่ยสามารถครอบแก้วได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หากผู้ป่วยมารับการรักษาต่อเนื่อง ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามคำแนะนำของแพทย์ จะทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ที่มา: cedars-sinai.org
สีจากการครอบแก้วบ่งบอกอาการ
เมื่อทำการรักษาโดยการครอบแก้วเสร็จแล้ว ตรงบริเวณของผิวหนังที่โดนครอบแก้วจะเกิดเป็นรอยจ้ำสีม่วง ๆ ขึ้น ซึ่งความเข้มของรอยจ้ำดังกล่าว สามารถบอกได้ถึงลักษณะอาการปวดตรงบริเวณนั้น ๆ ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยยิ่งมีสีที่เข้มมากเท่าไร ก็แสดงได้ว่า บริเวณดังกล่าวมีอาการปวดมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้หลังจากครอบแก้วเสร็จแล้ว จะเกิดรอยจ้ำ ๆ บนผิวหนังบริเวณที่โดนครอบแก้ว ซึ่งจะเป็นรอยอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วจะจางหายไปเอง
- สีชมพูอ่อน : สุขภาพแข็งแรงดี ระบบเลือดลงไหลเวียนปกติ
- สีแดง : ร่างกายมีความร้อนเล็กน้อย อ่อนล้าปานกลาง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- สีแดงสด : ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง รุนแรง เลือดลมติดขัด
- สีซีด : ลมปราณ และเลือดอยู่ในระดับพร่องพลังในร่างกายน้อยลงกว่าปกติ
- สีคล้ำ : ลมปราณติดขัดจนเกิดเลือดคั่ง ความเย็นสะสม
- มีรอยจุดสีคล้ำ อยู่บริเวณที่ครอบแก้ว : ลมปราณติดขัดจนเกิดเลือดคั่ง ความเย็นสะสม
ที่มา: prevention.com
การรักษาโรคโดยการครอบแก้ว สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่มีการติดขัด ทำให้เลือดมีการไหลเวียนที่ดีขึ้น สามารถรักษาอาการปวด โดยเฉพาะบริเวณ บ่า หลัง และเอว รวมไปถึงส่งเสริมความงาม ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีเลือดฝาดได้อีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจการรักษาด้วยการครอบแก้ว ก็สามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่ทำการรักษาโดยการครอบแก้วได้ หรือไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดูว่าอาการที่เป็นอยู่สามารถรักษาได้หรือไม่ และต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการรักษาค่ะ
ข้อมูล: thainakarin.co.th , princsuvarnabhumi.com และ rama.mahidol.ac.th