POCO แบรนด์สมาร์ทโฟนยอดนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักเทคโนโลยี ประกาศเปิดตัว POCO X4 Pro 5G และ POCO M4 Pro ทั่วโลกในงาน MWC 2022 ที่ผ่านมา ถือเป็นงานจัดแสดงสินค้าอย่างเป็นทางการครั้งแรกของบริษัทภายใต้แบรนด์ POCO ที่งาน MWC ด้วย โดยในวทความนี้เราจะรีวิว POCO M4 Pro ให้ได้ชมกัน
POCO M4 Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED DotDisplay ที่ 90Hz ที่ผสานเข้ากับลำโพงคู่ กล้องหลักความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล ขับเคลื่อนโดย MediaTek Helio G96 ที่มีประสิทธิภาพสูง แรมเริ่มต้น 6GB รอมเริ่มต้น 128GB แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Pro (เป็นคนละรุ่นกับ POCO M4 Pro 5G ที่วางขายผ่าน Shopee ช่วงเดือนธันวาคม 2564)
รีวิว POCO M4 Pro: สำรวจตัวเครื่อง
POCO M4 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1800 FHD+ ถือเป็นครั้งแรกใน POCO M-series ที่ใช้หน้าจอ AMOLED DotDisplay และยังมีอัตราการรีเฟรชถึง 90Hz และอัตราการตอบสนองอยู่ที่ 180Hz ซึ่งมอบการตอบสนองที่ว่องไวในการใช้งานทุกครั้ง
รองรับการปรับความสว่างโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมเพื่อความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง และได้รับการรับรองจาก SGS สำหรับทั้ง “Eye Care Display” และ “Seamless Display” สำหรับการรับชมเป็นเวลานาน โหมดการอ่าน 3.0 จะสลับไปใช้อุณหภูมิสีที่อุ่นขึ้นเพื่อลดอาการปวดตาโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล ใช้งานร่วมกับการปลดล็อคหน้าจอได้เป็นอย่างดี สำหรับการปลดล็อกด้วยใบหน้าหากใครใส่แว่นแบบผม สามารถตั้งค่าและปลดล็อคโดยสวมใส่แว่นตาได้เลย ในตอนตั้งค่าจะมีให้เลือกว่าเราเป็นคนใส่แว่นตาโดยปกติอยู่หรือเปล่า หากใส่ก็เลือกว่าใส่ จากนั้นก็ตั้งค่าโดยที่ไม่ต้องถอดแว่นตาออก เมื่อเราปลดล็อคก็ไม่จำเป็นต้องถอดแว่นตาตัวเครื่องก็สามารถปลดล็อคให้โดยไม่มีปัญหาอะไร
ปุ่มควบคุมรวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล สามารถปรับตำแหน่ง หรือซ่อนแถมเมนูได้
มาพร้อมกับช่อง Type-C รองรับชาร์จเร็วระดับโปร 33W มาพร้อมกับ เทคโนโลยี MMT ขั้นสูงช่วยให้ POCO M4 Pro มีประสิทธิภาพการชาร์จที่สูงเป็นพิเศษ ชาร์จแค่ 10 นาที ดูวีดีโอได้นาน 2 ชั่วโมง
เทคโนโลยี MMT ขั้นสูงช่วยให้ POCO M4 Pro มีประสิทธิภาพการชาร์จที่สูงเป็นพิเศษ เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการเล่นวิดีโอนาน 2 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียง 10 นาที*
ด้านบนเป็นลำโพงของตัวเครื่อง ทำงานรวมกับลำโพงเครื่องที่อยู่ด้านล่างของเครื่อง ให้เอฟเฟ็กต์เสียงคมชัดและทรงพลังที่พร้อมพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์อันดื่มด่ำ นอกจากนั้นยังมี NFC มัลติฟังก์ชัน ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. วิทยุ FM และ IR Blaster อีกด้วย
ด้านขาวมีปุ่มเพิ่มเสียง-ลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power ที่มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือรวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นปุ่ม Power ยังสามารถใช้เป็นปุ่มสั่งงานอื่นๆ ได้ด้วย เช่น เปิดกล้องถ่ายรูป แคปภาพหน้าจอ เปิดไฟฉาย เปิดเครื่องคิดเลข เรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง โหมดเงียบ
ด้านข้างของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียง ถัดมาจะเป็นปุ่ม power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง โดยตัวปุ่มจะมีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือรวมอยู่ด้วย ไม่ต้องกดแค่นิ้วแตะก็สามารถสแกนได้เลย โดยตำแหน่งของปุ่มหากถือด้วยมือซ้าย ตัวปุ่มจะพอดีกับนิ้วชี้ ถ้าถือด้วยมือขวาก็จะตรงกับนิ้วโป้งพอดี
POCO M4 Pro เป็นสมาร์ทโฟน POCO ที่เบาที่สุดในปัจจุบัน มีน้ำหนักเพียง 179.5 กรัม และหนา 8.09 มม. รองรับลการใช้งาน 2 ซิม สแตนด์บายคู่ 4G+4G รองรับทั้ง 4G / 3G / 2G
- 4G แบนด์ FDD-LTE 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28
- 4G แบนด์ TDD-LTE 38, 40
- 3G: แบนด์ WCDMA 1, 2, 4, 5, 8
- 2G: แบนด์ GSM 2, 3, 5, 8
เครือข่ายไร้สาย
- Bluetooth 5.0
- Wi-Fi: 802.11a/b/g/n/ac
พร้อมกับแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่ใช้งานได้นานกว่าสองวัน นอกจากนี้การชาร์จเร็ว 33W Pro สามารถชาร์จให้เต็มได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง หรือถ้ามีเวลาชาร์จ POCO M4 Pro เพียง 10 นาที ก็สามารถมีแบตเตอรี่ที่เพียงสำหรับการเล่นวิดีโอได้ถึง2 ชั่วโมง
ตัวโมดูลกล้องจะนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย
กล้องหลัง 3 ตัว มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพทุกช่วงเวลาของวันด้วยรายละเอียดที่คมชัด รวมไปถึงวิดีโอสโลว์โมชั่น วิดีโอไทม์แลปส์ และโหมดกลางคืน และถือเป็นกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลตัวแรกที่เปิดตัวใน M-Series
กล้อง 3 ตัวนั้นประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซลให้ภาพถ่ายที่คมชัด ชัดเจน และมีรายละเอียดครบถ้วน
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซลเพื่อนำช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่มาสู่ภาพด้วยมุมกล้องที่กว้างกว่า 118° องศา
- เลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถขยับเข้าไปใกล้และเจาะลึกเพื่อถ่ายภาพอันตระการตาของโลกขนาดเล็กที่เราไม่ค่อยมีโอกาสเห็นรายละเอียดมากนัก
ซอฟท์แวร์และการใช้งาน
มาพร้อมกับ MIUI 13 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดด้วยคุณสมบัติใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีขึ้น บนพื้นฐานของ Android 11 มาพร้อม Dark Mode แม้แอปที่เราใช้งานจะไม่รองรับ แต่ตัวอินเตอร์ก็สามารถเปลี่ยนแอปดังกล่าวเป็น Dark Mode ได้ โดยจะเปลี่ยนสีของพื้นหลัง แอปของระบบ และแอปภายนอก ให้เข้มขึ้น พร้อมกันนี้ Dark Mode ยังมอบประสบการณ์การมองเห็นในสภาวะแสงน้อยด้วย
หากใครเคยใช้มือถือ Android ที่เป็น MIUI มาก่อนก็จะคุ้นชินกันดีการเรียงเมนูแล้วก็การเรียกใช้งานต่าง ๆ ก็จะเหมือนกัน สามารถจัดกลุ่มแอพพลิคเชั่นได้ด้วย หากเรามีแอพที่ติดตั้งในเครื่องเยอะ เพียงแค่รู้ว่าอยู่หมวดไหน กลุ่มอะไรก็หาได้ง่ายมาก ตัวอินเตอร์เฟสเมนูมีการปรับใหม่พอสมควร มีฟังก์ชั่นเยอะขึ้น และมีการปรับเรื่องอินเตอร์เฟสการแสดงผลพอสมควร ตอนแรกที่ใช้งานก็งงๆ อยู่เหมือนกัน หาเมนูตั้งค่าไม่ค่อยเจอ แต่ก็ใช้วิธีพิมพ์ค้นหาได้
มี App สำหรับดาวน์โหลดธีมของตัวเครื่องมาให้ ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน เลือกดาวน์โหลดได้ตามใจชอบ ไม่จำกัดจำนวน นอกจากนั้นแล้วยังมี Wallpaper หรือภาพพื้นหลังให้ดาวน์โหลดด้วย ซึ่งตรงนี้ก็มีทั้งฟรีและเสียเงินเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีเสียงเรียกเข้า รูปแบบการล็อกหน้าจอ แล้วก็ไอคอนแอพให้เลือกดาวน์โหลดมาใช้งานได้ด้วย
ในแง่การรักษาความปลอดภัยหรือการยืนยันตัวตนเข้าใช้งานตัวเครื่อง ก็มีรูปแบบการปลดล็อคให้ใช้งานได้หลายวิธี และสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี เช่น การปลดล็อคแบบ Pattern หรือรูปแบบที่เราลากนิ้วไปมาบนหน้าจอ หรือใส่ Pin รหัสความปลอดภัย (ตัวเลข) ใส่รหัสผ่าน (ตั้งยาวๆ ได้) หรือการปลดล็อคด้วยชีวมาตร อย่าง ปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face recognition) และปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม power
สามารถใช้งานแอปเวอร์ชั่นล่าสุดของ Google ในระบบปฏิบัติการ Android ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Play Store, YouTube, Google Assistant, google maps, แอป Google สำหรับค้นหาข้อมูลต่างๆ โดยที่ไม่ต้องเปิดเว็บ chrome, Gmail หรือแม้แต่ Google photos สำหรับเก็บสำรองข้อมูลรูปภาพของเราไว้บนคลาวด์ของ Google แม้ตอนนี้จะไม่ให้ใช้ฟรีไม่จำกัดแล้วก็ตาม
มีโหมดมืดซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและช่วยบรรเทาอาการปวดตา สามารถปรับแต่งรูปแบบการแจ้งเตือนได้ด้วย ในแง่การตอบสนองการใช้งานตอบสนองได้อย่างลื่นไหลไม่หน่วงไม่กระตุกไม่ค้างไม่ช้าสลับแอปไปมาได้อย่างลื่นไหลเราสามารถสลับการใช้งานระหว่างเกมกับ App โดยที่ไม่ขัดจังหวะไม่ต้องรอโหลดช่วยให้ประสบการณ์ในการใช้งานดีขึ้นมากๆ
ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดมาให้ และยังมีแอปพลิเคชั่นรีโมทติดตั้งมาให้ ช่วยให้เราสามารถใช้ POCO M4 Pro เป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้ โดยสามารถเพิ่มได้ไม่จำกัดและรองรับกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้รีโมทมากมายการตั้งค่าก็ง่าย เพียงแค่เลือกยี่ห้อ หากไม่มีก็เลือกอื่น ๆ ได้ จากนั้นตัวแอปจะให้เรากดปุ่มเปิดหรือปิดไปเรื่อย ๆจนกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นจะทำงาน เพียงแค่นี้เราก็จะได้รีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าติดในมือถือของเราแล้ว
แม้ยุคนี้จะมีหลายคนบอกว่าวิทยุกำลังจะตาย แต่ก็มีหลายคนที่ยังต้องการฟังวิทยุอยู่ โดยในรุ่นนี้มี Application วิทยุมาให้ โดยที่ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม สามารถสแกนหาคลื่นได้ทุกครั้งทุกที่ที่เราต้องการใช้งาน ใช้งานก็ง่ายเพียงแค่เปิด App แล้วสแกนหาสถานีวิทยุที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้งานวิทยุบนมือถือได้แล้ว การใช้งานวิทยุเราต้องต่อหูฟัง 3.5 เพื่อใช้เป็นเสาอากาศในการรับสัญญาณวิทยุด้วยนะครับ
มี App จัดการด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยแอปจะมีฟังก์ชันในการเพิ่มประสิทธิภาพต่าง ๆ เช่นทำความสะอาดข้อมูลในเครื่อง กำจัดขยะ สแกนความปลอดภัย หรือสแกนหาไวรัสในมือถือ จัดการการใช้งานแบตเตอรี่ เพิ่มความเร็วของอุปกรณ์ (ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเคลียร์ Cache ของเครื่อง) นอกจากนั้นก็มีฟังก์ชั่นในการจัดการ App เช่น update app ถอนการติดตั้ง App สุดท้ายก็จะเป็น feature ทำความสะอาดเชิงลึก ซึ่งตรงนี้จะทำการลบแอปที่เราไม่ค่อยได้ใช้งานออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ของตัวเครื่อง
มาพร้อมกับ Game Turbo ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมของเราได้สูงขึ้นช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมบนเครื่องนี้จำได้ดีขึ้น โดย Game Turbo จะให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ปรับแต่งได้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพอัตราเฟรม ความเสถียรของเกมเพิ่มขึ้น 37.9% การเร่งความเร็วสัมผัส ระบบสัมผัสประสิทธิภาพดีขึ้น 100% การเล่นเกมอย่างต่อเนื่องแม้แบนด์วิดท์เครือข่ายและเวลาแฝงที่ลดลง เพิ่มประสิทธิภาพของ WiFi ลดความล่าช้าของ WiFi เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการสัมผัสตอบสนองการสัมผัสได้ดีขึ้น
ประสบการณ์ใช้งาน UI ที่ลื่นไหลและรวดเร็ว ไม่หน่วง ไม่สะดุด และไม่ค้างที่ เพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัย ยกระดับการรักษาความเป็นส่วนตัวขึ้น เพิ่มฟีเจอร์การเเจ้งเตือนการขออนุญาตการเข้าถึง โดยที่ระบบจะมีการแจ้งเตือนแสดงขึ้นบนแถบสถานะเมื่อพบแอปที่เข้าถึงกล้อง ที่อยู่ และไมโครโฟน ที่ทำงานเบื้องหลัง
ในแง่การรับชมความบันเทิงอย่าง YouTube สามารถดูความละเอียดสูงสุดที่ 1080p ที่ยังให้ภาพที่ลื่นไหลคมชัด Smooth ไม่กระตุกและสามารถดูได้ 2 โหมดคือโหมดแบบที่มีขอบดำด้านข้างหรือโหมดเต็มจอซึ่งโหมดเต็มจอจะมีพื้นที่บริเวณขอบบางส่วนของวีดีโอที่ถูกครอปออกไป คุณภาพของเสียงก็ดี ลำโพงเปิดดังไม่แตก
ตัวภาพที่ออกมามีความคมชัด สีสันดูสดใสเป็นธรรมชาติ และด้วยลำโพงคู่ทำให้คุณภาพเสียงที่ออกมามีความดังมีมิติของเสียงมากกว่ามือถือที่เป็นลำโพงเดียว ส่วนตัวคิดว่าน่าจะถูกใจคนชอบดู YouTube แน่นอน
รองรับ Wi-Fi: 802.11a/b/g/n/ac เชื่อมต่อกับ Wi-Fi 5GHz ได้ มอบความเร็ว และความเสถียรมากยิ่งขึ้น
ทดสอบประสิทธิภาพและการเล่นเกม
POCO M4 Pro มาพร้อมกับ MediaTek Helio G96 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงที่สามารถจัดการกับทุกสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ และ ARM Mali-G57 MC2 GPU แรม LPDDR4X ให้มา 6GB หน่วยความจำภายใน 128GB แบบ UFS2.2 เพิ่มหน่วยความจำ MicroSD ได้อีก 1TB มายความว่าสามารถจัดเก็บไลบรารีส่วนตัวได้ถึง 500 วิดีโอ, 250,000 เพลง และ 500,000 รูปภาพ
หาก RAM ขนาด 6GB ยังไม่เพียงพอ เทคโนโลยีการขยาย RAM แบบไดนามิก (Dynamic RAM Expansion Technology) ช่วยให้สามารถถ่ายโอนหน่วยความจำเพิ่ม 3GB จาก ROM ขนาด 128GB ได้ (ความจุ 6GB สามารถขยายเป็น 8GB ได้และความจุ 8GB สามารถขยายได้ถึง 11GB)
สามารถตอบสนองการเล่นเกมได้ดีระดับหนึ่ง แม้จะปรับสุดไม่ได้ แต่ก็ภาพไม่แย่ถึงขนาดเล่นไม่สนุก ปรับได้ระดับกลางๆ ยังคงมีความสวยงาม และกราฟฟิกที่ดีอยู่
POCO M4 Pro ใช้เทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool Technology 1.0 Plus ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้อุณหภูมิอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ว่าจะใช้ POCO M4 Pro นานแค่ไหนและบ่อยเพียงใด
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดกราฟฟิกสูงสุดที่ระดับ HD อัตราเฟรมเรทได้ระดับ สูงสุด
จากการตั้งค่าด้านบนคือ กราฟฟิกสูงสุดที่ระดับ HD อัตราเฟรมเรทได้ระดับ สูงสุด พอลองเล่นจริงพบว่า มีความแลคนิดนึง เลยปรับลดเฟรมเรท หรือระดับกลาง ดึงสามารถเล่นได้อยากลื่นไหล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง
ภาพของกิน
ภาพตอนกลางวัน
ภาพตอนกลางคืน
สรุป
จบไปแล้วสำหรับ รีวิว POCO M4 Pro ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่าและสนุกสนานในราคาที่เอื้อมถึงแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ POCO M4 Pro ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดตัวเลือกหนึ่งเลยทีเดียว มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สี Power Black สี Cool Blue และสี POCO Yellow มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 6/128GB ราคา และ 8/256GB