สกสว. จัดการประชุมชี้แจง (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566 – 2570

Lazada

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)” จัดการประชุมชี้แจง (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566 – 2570 และแนวทางการจัดทำคำของบประมาณของหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

- resize - ภาพที่ 1

โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 44 ได้กำหนดให้ “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)” มีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์

และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) จัดทำกรอบวงเงินงบประมาณด้าน ววน. และจัดทำหลักเกณฑ์การจัดทำคำขอและการจัดสรรงบประมาณเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) รวมถึงการกลั่นกรองคำของบประมาณในระบบวิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับแผนด้าน ววน. และจัดทำคำของบประมาณของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ในการนี้ สกสว. จึงได้มีการจัดประชุมชี้แจง (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566-2570 และแนวทางการจัดทำคำของบประมาณของหน่วยงานในระบบ ววน. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อให้หน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ (ร่าง) แผนด้าน ววน. และแนวทางการจัดสรรงบประมาณ รวมถึงมีข้อมูลพร้อมสำหรับการเตรียมการจัดทำคำของบประมาณของหน่วยงาน

โดยการจัดการประชุมในครั้งนี้ เพื่อชี้แจง (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566-2570 หลักเกณฑ์การจัดทำคำของบประมาณและการจัดสรรงบประมาณ และขั้นตอนการยื่นคำของบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และเพื่อสร้างพื้นที่การสื่อสารกับประชาคม ววน. ผ่านการบรรยายพิเศษจากผู้บริหาร สกสว. เนื่องจาก ระบบ ววน. ถือเป็นเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ

นอกจากนี้การสร้างความเข้าใจร่วมกันและสื่อสารไปยังประชนและรัฐสภาเพื่อเห็นความสำคัญของการลงทุนในระบบ ววน. ก็เป็นสิ่งสำคัญ

ศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่า การจัดทำกฎหมายการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม อยู่ในแผนของการดำเนินการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ที่ผ่านมาเมื่อเราทำงานวิจัย หน่วยงานให้ทุนจะเป็นเจ้าของ กฎหมายฉบับนี้จึงให้สิทธิ์กับผู้ที่ทำวิจัยเป็นเจ้าของได้เลย

อีกส่วนที่เราได้ดำเนินการคือ การจัดความรู้งานวิจัยในเชิงชุมชนและสังคม ช่วงโควิดทำให้เกิดการพัฒนาตรงนี้มาก มีคนจำนวนมากที่ตกงานและกลับไปประกอบอาชีพที่บ้าน และได้ทำงานด้านการเกษตร ส่วนนี้ถ้าใช้ความรู้ทางงานวิจัยมาสนับสนุนได้ก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ เราจะได้เห็นว่าเป็นเรื่องท้าทาย เมื่อมีปัจจัยเพิ่มมากขึ้น เราจะได้เห็นงานวิจัยเพื่อให้เกิดการพัฒนาชุมชน สังคมและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศ

“ทุกวันนี้เราพูดว่าการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเป็นการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย การวิจัยจะสร้างผลประโยชน์เพิ่มเติมมากขึ้น สกสว. รวมทั้งองค์กรในระบบบริหารงานวิจัยจะต้องเอาตัวเลขมาแสดงให้เห็นว่าลงทุนวิจัยร้อยกว่าล้าน ทั้งสร้างความรู้พื้นฐานหรือต่อยอด ถ้ามันสร้างผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นของใหม่หรือทำให้เกิดความกินดีอยู่ดี ซึ่งตีค่าเป็นเงินเกินกว่าสามสี่พันล้านได้ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเชื่อมั่นได้ ประเทศไทยทำเรื่องการพัฒนาอีอีซี (EEC) หรืออุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องใช้ความรู้ใหม่ทั้งนั้น และเราพบว่าเรามีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้

ดังนั้น การลงทุนสามสี่พันล้านแต่ได้ผลประโยชน์หมื่นๆล้าน ใครก็สนับสนุนและเห็นด้วยกับการลงทุนด้าน ววน.” ศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพร กล่าวสรุป

นอกจากนี้ภายในงานยังมีการบรรยายสำคัญ 4 หัวข้อ ได้แก่ (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2566-2570 โดย รองศาสตราจารย์ ดร. ชนาธิป ผาริโน รองผู้อำนวยการ สกสว., เป้าหมายและหลักการงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund) โดย รองศาสตราจารย์ ดร. คมกฤต เล็กสกุล รักษาการ ผู้อำนวยการภารกิจพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ และเลขานุการคณะทำงานด้านการใช้จ่ายงบประมาณสนับสนุนงานพื้นฐาน, การจัดทำคำรับรองฯ ของหน่วยรับงบประมาณ

โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิศักดิ์ ธีระวิสิษฐ์ รองผู้อำนวยการ สกสว., ตลอดจนการสื่อสารข้อมูล “การเปิดรับคําของบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และหลักเกณฑ์การจัดทำคำขอและการจัดสรรงบประมาณ” โดย สำนักกลยุทธ์แผนและงบประมาณ สกสว. และปิดท้ายด้วยการบรรยายหัวข้อ การติดตามและประเมินผลและการสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย รองศาสตราจารย์ ดร. พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการ สกสว.

นอกจากนี้ ได้เปิดวาระพิเศษเพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานในระบบ ววน. ใน 4 ด้าน คือ หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ, หน่วยงานด้านสังคม, หน่วยงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานด้านสุขภาพและสาธารณสุข

โดย สกสว. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในวันนี้จะส่งผลให้หน่วยงานรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ (ร่าง) แผนด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566-2570 มีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางและหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าใจวิธีการและขั้นตอนการจัดทำคำของบประมาณ และสามารถเสนอของบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ รวมถึงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และรับฟังความคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะร่วมกับ สกสว. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการร่วมกันต่อไป