- สมัคร LazPayLater ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง
- สินเชื่อ Shopee SPayLater | ผ่อนของ Shopee ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง
- โปรโมชันส่งฟรี Shopee เดือนนี้ ปี 2566
- Xiaomi Mi Speaker 3 ลำโพงบลูทูธตัวละ 249 บาท เสียงดีมาก
- Lazada Electronics แจกคูปอง 350.- คูปองเงินคืน 20% + คูปองส่งฟรี
- LazBEAUTY เครื่องสำอางลดราคา เงินคืนสูงสุด 50%
แหวนหมั้นแหวนแต่งงานเป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันที่คล้องหัวใจของคู่รักเอาไว้ โดยอาจจะเริ่มจากพิธีแรกที่เป็นการหมั้นหมายจากฝ่ายชาย เพื่อให้เกียรติฝ่ายหญิงและครอบครัว และเมื่อเสร็จสิ้นต่อไปก็จะเปลี่ยนเป็นการสวมแหวนแต่งงาน เปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกว่าคน ๆ นี้มีครอบครัวแล้วนั่นเอง ทีนี้เรามาเตรียมตัวให้พร้อมกันไว้ก่อนดีกว่า ถ้าจะต้องหมั้นและแต่งงาน รู้ไหมว่าจะต้องสวมแหวนที่นิ้วไหน
แหวนหมั้นแหวนแต่งงานสวมข้างไหน
รู้หรือเปล่าว่าจริง ๆ แล้วแต่ละประเทศมีธรรมเนียมในการสวมแหวนหมั้นแหวนแต่งงานไม่เหมือนกัน บางประเทศก็สวมได้เฉพาะข้างซ้าย บางประเทศก็ใส่เฉพาะข้างขวา และบางประเทศเขาก็ใส่กันได้ทั้ง 2 ข้าง ไปดูกันดีกว่าประเทศไหนจะมีธรรมเนียมการสวมแหวนแบบไหนกันบ้าง
- สวมแหวนข้างซ้าย – ในไทยเองก็นิยมสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย เพราะได้รับความเชื่อมาจากคติโบราณ ที่ว่านิ้วนางด้านซ้ายเป็นทางของเส้นเลือดตรงไปยังหัวใจ สื่อถึงความรักที่ซื่อตรงและมั่นคงจากหัวใจ นอกจากนี้ยังมีประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย อิตาลี ฟินแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกา ที่นิยมสวมข้างนี้ด้วย
- สวมแหวนข้างขวา – หลายคนคงเคยเห็นคนที่แต่งงานแล้ว แต่สวมแหวนที่มือข้างขวา นั่นไม่ได้แปลว่าเขาสวมผิด เพราะมีคนอีกหลายประเทศที่มีวัฒนธรรมสวมแหวนหมั้นที่มือซ้าย และสวมแหวนแต่งงานที่มือข้างขวา อย่างประเทศเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์
- สวมแหวนได้ทั้ง 2 ข้าง – ในอดีตประเทศอินเดียจะมีธรรมเนียมสวมแหวนแต่งงานที่มือข้างซ้าย และเชื่อกันว่ามือซ้ายจะเป็นมือที่สกปรก ต่อมาจึงเปลี่ยนให้สวมแหวนที่มือขวาแทน จนในปัจจุบัน อินเดียได้เปลี่ยนวัฒนธรรมให้สามารถสวมแหวนได้ทั้ง 2 ข้างแล้ว
แหวนหมั้นที่นิยมมักจะเป็นแหวนเพชร เพราะเป็นเครื่องประดับที่สวย มีคุณค่า แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและให้เกียรติ เช่นเดียวกับแหวนแต่งงาน ซึ่งจะมีหลากหลายทรงที่สวยและโดดเด่นแตกต่างกันออกไป โดยทรงที่ได้รับความนิยมเป็นเทรนด์ในช่วงนี้มี 5 ทรงฮิตด้วยกัน
5 ทรงแหวนหมั้นแหวนแต่งงานยอดฮิต
1. แหวนทรงชูเพชร
ทรงแหวนหมั้นแหวนแต่งงานสุดคลาสสิก อย่างทรงชูเพชรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือการตกแต่งส่วนฐานของแหวนซึ่งทำหน้าที่ชูตัวเพชรขึ้นมา เพราะจะเป็นสิ่งแตกต่างจากทรงอื่นอย่างชัดเจน ทำให้แหวนแต่งงานทรงนี้เป็นที่นิยมเอาไว้สวมใส่ออกงาน เพื่อโชว์ความลักซ์ชัวรี่ให้โดดเด่นเจิดจรัสที่สุด แต่สิ่งที่ต้องระวังคือหากไปเกี่ยวเสื้อผ้าหรือสิ่งของอาจจะเกิดตำหนิได้
2. แหวนทรงฝังหลุม
แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานอีกทรง ที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน คงจะเป็นทรงไหนไปไม่ได้นอกจากแหวนเพชรทรงฝังหลุมที่เหมาะกับทั้งผู้ชาย และคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟ เพราะตัวเพชรจะถูกล้อมเอาไว้ ทำให้เพชรมีความแข็งแรงมากกว่าทรงชูเพชร สามารถใส่ติดมือได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดตำหนิ ซึ่งความน่าสนใจของแหวนเพชรทรงนี้ คือการโชว์ความสวยงามของเพชรให้เห็นเฉพาะด้านบนเท่านั้น
3. แหวนเพชรล้อม
แหวนแต่งงานทรงนี้เป็นอีกทรงที่เป็นที่นิยมมาก เพราะเอกลักษณ์ของแหวนที่ออกแบบให้มีเม็ดเพชรเล็ก ๆ ประดับล้อมรอบเพชรเม็ดใหญ่ตรงกลาง ทำให้แหวนดูโดดเด่นเปล่งประกายขึ้นมาโดยไม่ต้องซื้อเพชรเม็ดใหญ่ นี่เลยเป็นข้อดีหนึ่งเพราะราคาของแหวนจะถูกลง ไม่จำเป็นซื้อเพชรเม็ดใหญ่ที่มีราคาสูง เหมาะสำหรับที่ต้องการประหยัดงบ แต่ยังอยากได้ความใหญ่ตระการตาอยู่
4. แหวนเพชรเรียง
นอกจากแหวนเพชรล้อมแล้ว แหวนทรงเพชรเรียงก็เป็นอีกทรงหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะออกแบบให้มีเพชรหลายเม็ดมาอยู่ในแหวนวงเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันกับแหวนเพชรล้อม คือแหวนทรงนี้จะนำเพชรมาเรียงกันรอบแหวน ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เรียงเพชร 3 เม็ดไปจนถึง 7 เม็ด ขึ้นอยู่กับความต้องการเลย
5. แหวนเพชรฝังหนีบ
ทรงสุดท้ายที่ฮิตไม่แพ้ทรงอื่น คือแหวนเพชรฝังหนีบเป็นทรงที่ใช้โลหะดันและหนีบตัวเพชรเอาไว้ และมีการเลเซอร์เพื่อให้เพชรล็อกแน่นอยู่กับแหวนได้อย่างดี ดูเผิน ๆ อาจเหมือนกับเพชรนั้นลอยอยู่โดยมีตัวแหวนมาหนีบไว้เฉย ๆ ซึ่งถือว่าต้องใช้ช่างที่เชี่ยวชาญมาก ทำให้เวลาใส่แล้วยิ่งดูสวย แพง และโก้ขึ้นไปอีกนั่นเอง
สุดท้ายแล้วแหวนหมั้นแหวนแต่งงานนั้นก็จะขึ้นอยู่กับคู่บ่าวสาว ก็ยึดถือปฏิบัติในวัฒนธรรมไหน มีธรรมเนียมไหนที่ครอบครัวปฏิบัติมาอยู่แล้วหรือเปล่า รวมถึงการเลือกทรงแหวนก็มักจะเลือกในสิ่งที่คู่ของตนเองชอบ โดยสามารถเพิ่มกิมมิกให้น่ารักขึ้นไปได้อีก ด้วยการสั่งแหวนคู่เป็นตัวแทนความรัก สร้างความโรแมนติกในงานแต่งงาน พร้อมมีแหวนสัญลักษณ์คู่กาย ที่เอาไว้ใช้กับคนคู่ใจด้วยกันสองคน