5 เทคนิคเคลียร์หนังสือให้หมดตู้ สำหรับนักอ่านสายดอง

- 5 easy tips for book lovers cover - ภาพที่ 1

สำหรับใครที่กดเข้ามาอ่านบทความนี้ เชื่อว่าต้องมีหนังสือนอนเบื่ออยู่ในตู้อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าสิบเล่มแน่ๆ โดยเฉพาะใครที่เป็นนักอ่านตัวแม่ แต่กลับชอบดองหนังสือไว้เป็นเดือนๆ บางคนก็ดองไว้เป็นปี ตอนซื้อก็ตามเก็บครบทุกเรื่อง แต่พอซื้อเสร็จแล้วก็เอามาเก็บเข้ากรุ ทะนุถนอมอย่างดีแบบไม่มีแม้แต่รอยเปิดอ่านสักนิด!

- lovely asian young lady portriat happy woman lifestyle concept - ภาพที่ 3

ซึ่งข้อแก้ตัวของเหล่านักอ่านสายดองหนังสือส่วนใหญ่ก็มักจะเป็น “ยังไม่มีเวลาอ่าน” บ้างล่ะ “มีหลายเล่มจบ ไว้รอให้ตีพิมพ์ครบทุกเล่มก่อน” บ้างล่ะ หรือ “เรื่องนี้ไม่โดน อ่านแล้วเบื่อ เทเลยก็แล้วกัน” หรือไม่ก็ “ยังไม่อิน ขอพักยาวๆ ไว้ค่อยกลับมาอ่านต่อ” และทุกครั้งที่จะซื้อเล่มใหม่ก็สัญญากับตัวเองลวกๆ ว่า “ซื้อก่อน ไว้ค่อยอ่านทีหลัง” อะไรประมาณนี้

มาลองคิดๆ ดูแล้ววงการนักอ่านก็เหมือนวงการนักล่าซีรีส์ ชอบดู แต่ก็ชอบดองด้วยเช่นกัน พอยิ่งดอง กองหนังสือก็เริ่มเยอะขึ้น พอยิ่งเยอะขึ้นก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่รู้จะอ่านเล่มไหนก่อนดี กลายเป็นดองไปเลยยาวๆ มาค่ะ! ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นนักอ่านสายดอง มาดู 5 เทคนิคง่ายๆ เคลียร์หนังสือให้หมดตู้ เส้นทางสู่จุดจบของสายดองหนังสือ ต้องทำยังไง!?

- cup tea cookies - ภาพที่ 5

5 เทคนิคเคลียร์หนังสือให้หมดตู้

เลือกซื้อเฉพาะเล่มที่อยากอ่านจริงๆ

มีนักอ่านอยู่ไม่น้อยเลยที่ชอบซื้อหนังสือตามกระแส ส่วนหนึ่งอาจเพราะอยากซื้อมาถ่ายรูปอัปลงโซเชียล สร้างภาพลักษณ์ที่ดูดี หรืออีกส่วนหนึ่งก็ซื้อเพราะรีวิวดี เป็นหนังสือขายดี หรือเป็นหนังสือที่นำไปทำเป็นละคร ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่หนังสือแบบที่เราชอบเลยสักนิด แต่ก็เลือกที่จะซื้อตามกระแส และแน่นอนว่าเมื่อเป็นหนังสือที่ไม่ได้ชอบจริงๆ ก็ทำให้ไม่อยากอ่าน หรืออ่านแล้วก็เทกลางคัน ฉะนั้นถ้าไม่อยากดองหนังสือก็ควรเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อเลยนี่แหละ เพราะถ้าเป็นหนังสือเล่มที่อยากอ่านจริงๆ ไม่ว่ายังไงเราก็จะอ่านไปได้จนจบแน่นอน

แบ่งเวลาให้ดี

เหตุผลยอดฮิตของเหล่านักเขียนสายดองคงไม่พ้น “ไม่มีเวลาอ่าน” ไหนจะต้องเรียน ทำงาน ไปเที่ยว เล่นโซเชียล ทำนู่นนี่นั่น แป๊บๆ ก็หมดวันแล้วจะให้อ่านตอนไหน? ซึ่งก็อย่างที่รู้ว่าคนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่อยู่ที่ว่าเราจะแบ่งใช้ยังไงให้คุ้มมากกว่า หากมาลองดูดีๆ แล้ว เรามีเวลาให้หนังสือเสมอ แค่เราให้ความสำคัญกับมันไม่มากพอที่จะหยิบมาอ่าน เพราะมัวแต่ไปโฟกัสอย่างอื่นแทน ลองจัดตารางเวลาให้ตัวเองใหม่ แบ่งให้ชัดเจนว่าวันไหนตอนไหนจะทำอะไร แล้วเลือกให้การอ่านหนังสือมาอยู่ในลิสต์ลำดับต้นๆ

- book library with open textbookpok - ภาพที่ 7

กำหนดเวลาอ่านให้ชัดเจน

เมื่อจัดตารางแบ่งเวลาให้ตัวเองได้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือต้องกำหนดเวลาในการอ่านหนังสือให้ชัดเจน เช่น จะต้องอ่านให้ได้วันละ 10 หน้า วันละ 3 ตอน วันละ 1 หรือ 2 ชั่วโมง หรือกำหนดไว้ว่าจะอ่านเล่มนี้ให้จบในหนึ่งสัปดาห์ การตั้งกฎเวลาที่ชัดเจนให้ตัวเอง จะเป็นตัวกระตุ้นให้เราขยันหยิบหนังสือมาอ่านได้มากขึ้น ที่สำคัญคือต้องทำตามกฎของตัวเองอย่างเคร่งครัด ไม่วอกแวก และฝึกให้เป็นนิสัย

วางหนังสือไว้ใกล้มือเสมอ

เชื่อว่านักอ่านหลายคนต้องเคยเป็น บางทีนึกอยากอ่านหนังสือ พอจะไปหยิบ เห็นว่าอยู่ไกล หยิบยาก หรือเก็บไว้ลึกเกินต้องใช้เวลาหา ทำให้รู้สึกขี้เกียจแล้วก็ตัดใจ ไม่อยากอ่าน กลายเป็นดองหนังสือไปในที่สุด ฉะนั้นวิธีแก้ง่ายๆ คือเอามาวางไว้ใกล้มือ หรือในที่ที่หยิบมาอ่านได้ง่ายๆ ซะเลย พอเวลาว่างนึกอยากอ่านจะได้หยิบมาอ่านได้ทันที แถมพอเอามาวางใกล้ๆ เวลาได้เห็นหน้าปกอยู่ตลอดเวลาก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากอ่านมากขึ้นด้วยนะ

งดซื้อหนังสือเล่มใหม่

เทคนิคปราบเซียนสุดๆ นักอ่านคนไหนทำได้คงต้องยกนิ้วให้เลย เพราะแค่เห็นหน้าปกหนังสือเล่มใหม่ แค่อ่านคำโปรย หรือแค่เห็นพรีวิวยั่วๆ จากนักเขียน ใจมันก็วาร์ปไปอยู่ร้านหนังสือแล้วเรียบร้อย แต่ก่อนอื่นอยากจะให้หยุดความคิด แล้วหันไปมองกองดองสักนิดนึง เห็นไหมว่าน้องนอนเบื่ออยู่เยอะแค่ไหน? ถ้าไม่อยากดองหนังสือจนไม่มีแม้แต่ที่จะเก็บ ก็ต้องเคลียร์ที่มีอยู่ให้จบหมดซะก่อน บังคับตัวเองให้เด็ดขาด ห้ามซื้อเล่มใหม่จนกว่าจะอ่านเล่มเก่าให้หมด!

- open book smiley cup - ภาพที่ 9

ติดตามเพจ