รีวิว Asus ROG Phone

Lazada

Asus Thailand ได้วางขาย ROG Phone เกมมิ่งสมาร์ทโฟนที่สาวกเกมเมอร์ชาวไทยตั้งตารอมานาน หลังการเปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2018 เป็นมือถือที่จัดเต็มสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทั้งสเปกที่จัดเต็ม อัดความแรงมาแล้ว ฟีเจอร์ที่เกีย่วกับการเล่นเกมยังให้มาเพียบ

ROG Phone วางขายในไทย 2 โมเดลด้วยกันคือ รุ่นแรม 8GB หน่วยความจำ 128 GB ในราคา 29,990 บาท และ แรม 8GB หน่วยความจำ 512 GB ในราคา 34,990 บาท

สำรวจตัวเครื่อง

มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2160 พิกเซล สัดส่วนหน้าจอ 18:9 อัตรารีเฟรชเรทที่ 90 Hz อัตราการตอบสนอง 1/1000 วินาที หน้าจอให้ภาพที่ลื่นไหลและชัดเจน ไม่มีอาการเบลอ ช่วงกว้างของสี ระดับ DCI-P3 ที่ 108.6% (sRGB 145%) สีสันจะมีความสดใส การแสดงผลของเกมที่เล่นจะสวยงามกว่าที่เคยเห็น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอัตรา HDR Contrast ที่ 100,000:1 ทำให้มองเห็นรายละเอียดที่อยู่ในเงามืดได้ เสริมความแข็งแรงด้วยกระจก Gorilla Glass 6

ROG Phone - Asus ROG Phone 009 - ภาพที่ 1

เนื่องจากเป็นมือถือสำหรับเล่นเกม ระบบเสียงสำคัญมาก แน่นอนว่าทาง Asus ก็จัดเต็มมาให้ มาพร้อมกับลำโพงด้านหน้าคู่ (Dual smart amplifiers) มีแอมป์ช่วยขับเคลื่อนพลังเสียงให้ดังขึ้น มีการเพี้ยนของเสียงต่ำ ระบบเสียง 24 bit 192 GHz รองรับไฟล์เสียงความละเอียดสูง ทำงานได้ดีทั้งลำโพงและหูฟัง

นอกจากนั้นยังมีระบบ DTS:X Ultra 1.0 ใหม่ล่าสุดให้เสียงรอบทิศทางที่ทำให้เกมที่เล่น ไม่ว่าจะเป็นประเภท VR หรือ AR หรือประเภทใดๆ สมจริง ด้วยพลังเสียงรอบทิศทาง 7.1 Channel

ROG Phone - Asus ROG Phone 007 - ภาพที่ 3 ROG Phone - Asus ROG Phone 008 - ภาพที่ 5

รองรับซิมแบบ Nano-SIM จำนวน 2 ซิม โดยรุ่นนี้จะเพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ ฉะนั้นถ้าเล่น้ล่นหลายๆ เกมอาจจะต้องเลือกรุ่น 512GB แทนรุ่น 128GB

ROG Phone - Asus ROG Phone 020 - ภาพที่ 7

ตัวเครื่องขนาด 158.8 x 76.2 x 8.3 มม. น้ำหนัก 200 กรัม ถือว่าเป็นน้ำหนักที่เอาเรื่อง โดนในรุ่นนี้ช่องสำหรับชาร์จแบตเป็น USB-C แต่ก็ยังคงมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่

สิ่งที่ผมชอบคือฟีเจอร์เกี่ยวกับการชาร์จแบต ASUS HyperCharge ชาร์จเร็ว จาก 0% ถึง 60% ใช้เวลาเพียง 30 นาที โดยรองรับ Quick Charge 4.0 ชาร์จได้ปลอดภัย เนื่องจากตัวควบคุมการจ่ายไฟไม่ได้อยู่ในตัวโทรศัพท์ แต่ถูกติดตั้งอยู่ภายในอแดปเตอร์แทน ทำให้สามารถจ่ายไฟมากกว่า (สูงสุด 20 วัตต์)เวลาการชาร์จที่สั้นลงและปลอดภัยมากขึ้น ขณะชาร์จเครื่องไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องกังวลครับ เราสามารถชาร์จ กับ USB-C แบบทั่วไปได้เหมือนเดิม

อแดปเตอร์ที่แถมมาในกล่อง พร้อมสาย USB-C แบบสายถักมีความแข็งแรง

ROG Phone - Asus ROG Phone 024 - ภาพที่ 19

AirTrigger คือเทคโนโลยีที่ออกมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ พูดกันง่ายๆ AirTrigger เป็นเซ็นเซอร์ที่อยู่ข้างๆ ตัวเครื่อง ทำหน้าที่เป็นเพิ่มเติมเหมือนปุ่ม L กับ R ของเกมคอนโซล ทำงานโดยใช้คลื่นความถี่สูง มีด้วยกัน 3 ตำแหน่ง ซึ่งมี 2 ปุ่มที่เป็นปุ่มควบคุมซ้าย-ขวา ติดตั้งอยู่ด้านบนของจอภาพเพื่อการเล่นเกมในโหมดแนวนอน และอีกปุ่มหนึ่งใช้ในการเล่นเกมแบบแนวตั้ง

ROG Phone - 2018 12 05 16 09 27 - ภาพที่ 21

ปุ่มทั้งหลายนี้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะใช้เป็นปุ่มเล็ง ยิง เลือกของใช้ใน Inventory หรือการควบคุมการเคลื่อนที่เช่นหมุนพวงมาลัยหรือเดินทางในแบบต่างๆ

เท่าที่ลองใช้งานมีความแม่นยำและตอบสนองได้มาก ขึ้นอยู่กับความเคยชิน ต้องฝึกฝนใช้งาน จะทำให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานยิ่งขึ้น การใช้งานใช้แรงกดเพียง 20 กรัม (สามารถปรับความแรงในการกดได้ ถ้าเบาไปมือแตะๆก็ลั่นแล้ว) และมีการตอบสนองที่รวดเร็วเพียง 10/1000 วินาที ซึ่งเร็วกว่าและแม่นยำกว่าการแตะจอภาพหรือปุ่มกดธรรมดาซึ่งต้องการแรงกดถึง 80 กรัม และมีการตอบสนองแค่ 30-50/1000 วินาที

ROG Phone - 2018 12 05 16 10 24 - ภาพที่ 23

และที่สำคัญต้องตั้งค่าก่อนใช้งานทุกเกม ตั้งค่าแค่ครั้งแรกครั้งเดียว ถ้าเราไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งปุ่ม ก็ไม่ต้องตั้งค่าใหม่ ทุกเกมที่เราเคยตั้งค่าไว้แล้วจะมี Profile บันทึกไว้ เปิดเกมมาให่มก็ใช้งานต่อได้เลย หากไม่ต้องการใช้งานก็แค่ปิด AirTrigger ไป

จากภาพจะเห็นว่าผมกดที่ขอบตัวเครื่องด้านขวา ในหน้าจอเกมจะกดปุ่มซูม และถ้าผมกดที่ข้างตัวเครื่องซ้ายมือจะเป้นปุ่มยิง ซึ่งเราสามารถตั้งค่าเป้นปุ่มอะไรก็ได้ ตามความต้องการของเรา เพียงแต่เลื่อนปุ่มไปทับกับปุ่มของเกม

ROG Phone - Asus ROG Phone 022 - ภาพที่ 25 ROG Phone - Asus ROG Phone 023 - ภาพที่ 27

หลายคนมักจะเจอปัญหาต้องชาร์จแบตขณะเล่นเกม ทำให้จับเครื่องไม่ถนัด ทาง Asus จึงออกแบบ side-mount port ออกมาเพิ่มเติม อยุ่บริเวณด้านข้างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย USB-C 1 ช่อง และช่องเชื่อมต่อพิเศษอีก 1 ช่อง สำหรับต่ออุปกรณ์เสริมของ Asus ทำให้เราสามารถชาร์จแบตที่ด้านข้างตัวเครื่อง และยังคงเล่นเกมโดยจับถนัดมือเหมือนเดิม

ROG Phone - 2018 12 05 16 02 48 - ภาพที่ 29

เทคโนโลยี AeroActive Cooler อุปกรณ์เสริมสำหรับระบายความร้อนที่มีแถมมาในกล่อง ไม่ต้องซื้อแยก สามารถทำให้ตัวเครื่องมีความร้อนลดลง ระบายความร้อนด้วยพัดลม 4 ตัวช่วยลดอุณหภูมิตัวเครื่องได้มากที่สุดถึง 4.7 องศาเซลเซียส ทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไปแม้เล่นต่อเนื่องยาวนาน และยังสามารถทำงานร่วมกับ AURA RGB 

ROG Phone - Asus ROG Phone 016 - ภาพที่ 31 ROG Phone - Asus ROG Phone 015 - ภาพที่ 33

ROG Phone - 2018 12 05 16 09 08 - ภาพที่ 35

วิธีใช้งานแค่ต่อ AeroActive Cooler เข้ากับช่อง side-mount port ที่ด้านข้างตัวเครื่อง (ถอดฝาปิดออกก่อนนะครับ) เมือต่อเสร็จตัวพัดลมระบายความร้อนจะทำงานทันที ช่วยให้ตัวเครื่องมีความร้อนที่ลดลง

ROG Phone - Asus ROG Phone 013 - ภาพที่ 37

ตัว AeroActive Coole เองมีช่องเชื่อมต่อมาให้อีก 2 ช่องคือ USB-C สำหรับชาร์จแบตหรือต่ออุปกรร์เสริม กับช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม.

ROG Phone - Asus ROG Phone 014 - ภาพที่ 39

ASUS Professional Dock เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับโทรศัพท์ของเรา ประกอบไปด้วยพอร์ต Ethernet LAN ความเร็วระดับกิกะบิต เพื่อการเชื่อมต่อที่มีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นระหว่างการเล่นเกม พอร์ต USB สำหรับเชื่มอต่อกับเมาส์และคีย์บอร์ดเพื่อความสะดวกสบายในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น

USB-C สำหรับชาร์จแบตไปพร้อมกับการเล่นเกม และช่องต่อ HDMI with 4K @30Hz สำหรับต่อออกไปแสดงผลกับหน้าจอ

ROG Phone - Asus ROG Phone 026 - ภาพที่ 41

วิธีใช้งานคือต้องเชื่มอต่อ AeroActive Cooler ก่อน จากนั้นเอาสาย ASUS Professional Dock ที่เป็น USB-C ต่อเข้าไป จากนั้นก็ต่อพวงกับหน้าจอ และเมาส์ คีย์บอร์ดได้เลย ทำให้เราสามารถคีย์บอร์ดและเมาส์ในการเล่นเกม พร้อมกับแสดงผลออกที่หน้าจอได้เลย

เพียงแต่ทุกเกมที่ต้องการใช้งานเมาส์และคีย์บอร์ด เราต้องทำการแมพปุ่มทุกปุ่มก่อน ไม่งั้นจะใช้งานไม่ได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาทำนานเหมือนกัน หากแมพไม่ครบเราจะใช้งานไม่ได้ อาจจะต้องแตะที่หน้าจอเอาในบางที แต่ถ้าแมพก็ก็ใช้งานได้เต็มฟังก์ชั่นเลย

ROG Phone - Asus ROG Phone 027 - ภาพที่ 43 ROG Phone - Asus ROG Phone 028 - ภาพที่ 45

AURA RGB คืออีกหนึ่งจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างสีสันสวยงามอย่าง ASUS Aura RGB ที่ปล่อยแสงบริเวณโลโก้ ROG ที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง สามารถปรับแต่งให้แสดงได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบไฟนิ่ง เปิดปิดแบบการหายใจ กะพริบ หรือเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ

นอกจากนั้นยังสามารถประยุกต์เป็นไฟสำหรับแจ้งเตือนได้อีกด้วย เช่น ระหว่างมีสายเรียกเข้า มีการแจ้งเตือนอีเมล ข้อความ หรืออีกมากมาย แต่ถ้าไม่อยากให้มันเปลืองแบตก็ปิดไว้ก็ได้เช่นกัน (ปกติผมก็ปิดไว้ ลองใช้แค่ครั้งเดียว)

ROG Phone - Asus ROG Phone 002 - ภาพที่ 47 ROG Phone - Asus ROG Phone 004 - ภาพที่ 49

มาพร้อมระบบระบายความร้อน Game Cool ที่ใช้ 3D vapor-chamber (ช่องระบายความร้อนด้วยไอน้ำ) ประกอบไปด้วยส่วนกระจายไอน้ำและชุดทำความเย็น เสริมกำลังด้วยอุปกรณ์กระจายความร้อนทำจากทองแดงและแผ่นคาร์บอนทำความเย็นที่ประกอบอยู่ด้วยกันกับเมนบอร์ด เพื่อประสิทธิภาพความเย็นสูงสุด

ROG Phone - 2018 12 05 16 19 36 - ภาพที่ 51

กล้องหลังคู่ ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363 ความละเอียด 12 MP, f/1.8, LED flash มี OIS 4 แกน ถ่ายวีดีโอ 2160p@30/60fps, 1080p@30/60/240fps มี AI Scene Detection 16 โหมด, AI Photo Learning, Real-time Protrait, Real-time Beautification พร้อมกล้องรองมุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 MP

ROG Phone - Asus ROG Phone 003 - ภาพที่ 53

นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องมาให้ด้วย

ROG Phone - Asus ROG Phone 021 - ภาพที่ 55

ซอฟท์แวร์

มาพร้อมกับ Android 8.1 (Oreo) พร้อมอินเตอร์เฟส ROG Gaming UI น่าจะถูกใจชาวเกมเมอร์อย่างยิ่ง อินเตอร์เฟสออกแนวดุๆ ตามแบบฉบับเกมเมอร์ ไม่ได้มีแค่ความสวยอย่างเดียว การใช้งานลื่นไหลมาก ตอบสนองได้ดี สัลบแอพไปมา เปิด-ปิดแอพได้รวดเร็วทันที ไม่เจออาการหน่วงหรือค้างเลย

แต่ถ้าใช้งานแรกๆ อาจจะต้องปรับตัวกับเรื่องไอคอนของแอพนิดหน่อย เพราะมันจะไม่ชินตาเรา หลายๆ ครั้งก็หาแอพไม่เจอ เพราะเราจะชินกับหน้าตอไอคอนแบบเดิมๆ

ROG Phone - 2018 12 05 17 13 32 - ภาพที่ 57

ใน Game Center จะมีโหมดที่ทำให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมได้ ด้วยโหมดพิเศษ X Mode ซึ่งสามารถเรียกใช้ได้โดยการกดเพียงครั้งเดียว แล้วเครื่องจะเคลียร์หน่วยความจำที่ไม่จำเป็นเพื่อที่จะสงวนหน่วยความจำมาใช้ในการแสดงผลเกมเพียงอย่างเดียว

ทำให้ข้อมูลในเกมรวมไปถึงความเร็วในการประมวลผลถูกเรียกขึ้นมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว และทำงานควบคุมกับระบบระบายความร้อน AeroActive Cooler ได้ในเวลาเดียวกัน (ลมระบายความร้อนจะแรงขึ้น)

ROG Phone - 2018 12 05 17 13 42 - ภาพที่ 59

การปรับแต่ง AURA RGB ทำได้งานๆ ใน Game center เช่นเดียวกัน

ROG Phone - 2018 12 05 17 13 51 - ภาพที่ 61

มีเซอร์เซอร์สแกนนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคเครื่อง การตอนสนองของเซ็นเซอร์เร็วมาก ไม่ต้องรอ คิดว่าไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ อีกทั้งการตั้งค่าก็ทำไดง่ายและรวดเร็ว ไม่มีข้อดิอะไรสำหรับระบบสแกนนิ้วมือ

นอกจากสแกนนิ้วแล้วยังสามารถใช้ Face Unlock สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานเครื่องได้อีกทาง เท่าที่ใช้งานก็ทำงานได้ดีมาก สามารถใช้งานได้ในความมืดระดับนึง แต่ถ้าห้องมือ 100% อันนี้สแกนใบหน้าไม่ติด ถ้าความสว่างเพียงพอสแกนติดเร็วมาก และไม่ต้องเอามือถือมาให้ตรงหน้าก็สแกนติด

ROG Phone - 2018 12 05 17 13 14 - ภาพที่ 63

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

ในวันเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Computex 2018 ประเทศไต้หวัน ROG Phone ได้รับคะแนนจาก Antutu สูงถึง 305,210 คะแนน ณ วันที่ผมทำการทดสอบทำคะแนนได้ 279,953 คะแนน ในโหมดธรรมดา และ 285,488 คะแนน ในโหมด X

อย่างที่ทราบกันว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับซีพียู Qualcomm Snapdragon 845 ที่ได้รับการโอเวอร์คล็อกพิเศษ ให้ความเร็วสูงสุด 2.96 GHz (จากความเร็วปกติที่ 2.80 GHz) ชิปกราฟิกเป็น Adreno 630 และหน่วยความจำ LPDDR4 ขนาด 8GB หน่วยความจำ UFS2.1 128GB

ROG Phone - 2018 12 05 17 13 23 - ภาพที่ 65

ในแง่การเล่นเกมไม่ต้องติเลย ทำได้ดีมากๆ ทั้งความลื่นไหล และความสวยงามของภาพ เท่าที่ลองทุกเกมที่ลงปรับความละเอียดสุดได้ อย่าง PUBG Mobile ปรับความละเอียด HDR HD และเฟรมเรท Ultra ยังให้ภาพลื่นไหลเหมือนเดิม ที่สำคัญแบตเตอรี่อึดมาก

ROG Phone - 2018 12 05 17 13 01 - ภาพที่ 67 ROG Phone - 2018 12 05 17 12 51 - ภาพที่ 69 ROG Phone - 2018 12 05 17 12 41 - ภาพที่ 71 ROG Phone - 2018 12 05 17 12 30 - ภาพที่ 73

ตัวอย่างภาพถ่าย