รีวิว ASUS Vivobook 16X (X1603, 12th Gen Intel)

เทรนด์ใหม่กำลังมาช่วงนี้คือโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว จะมาแทนที่โน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แน่นอนว่าเราคุ้นชินกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้วกันมานาน เพราะหลายแบรนด์ก็ใช้หน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปมากกว่าเดิม ทำให้เราสามารถใช้โน๊ตบุ๊คหน้าจอ 16 นิ้ว ที่ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว แถมได้ขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้น และอัตราส่วน 16:10 ทำงานได้สบายตา เหมาะกับการทำงานโปรแกรม Office และ Adobe

รุ่นที่เรากำลังจะรีวิวให้ชมก็คือ ASUS Vivobook 16X (X1603, 12th Gen Intel) มาพร้อมหน้าจอขนาด 16 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 WUXGA (1920 x 1200) พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i5-12500H Processor 2.5 GHz, Intel® UHD Graphics, RAM 8GB DDR4 on board หน่วยเก็บข้อมูลขนาด 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD รองรับ Wi-Fi 6+ Bluetooth 5.0 และ Windows 11 Home วางจำหน่ายในสี Quiet Blue

พร้อมการรับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็มครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก และการรับประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก พร้อมด้วย Windows 11 และ Pre-installed Office Home & Student 2021 ติดตั้งพร้อมใช้งานตลอดอายุเครื่อง พร้อมรับสมาชิก Adobe Creative Cloud® ฟรี หนึ่งเดือน

สเปก ASUS Vivobook 16X (X1603, 12th Gen Intel)

**หมายเหตุ: เป็นราคา ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สำรวจตัวเครื่อง

ASUS Vivobook 16X (X1603, 12th Gen Intel) เป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอ WUXGA (1920 x 1200) 16:10 aspect ขนาด 16 นิ้ว หน้าจอใหญ่ชัดเต็มตา ทำงานได้สบาย โดยเฉพาะการใช้งานโปรแกรม Microsoft Office ตัวเครื่องพกพาง่าย ขนาด 19.9 mm หนัก 1.88 KG พกพาสะดวก ไม่หนัก คล่องตัวสูง

ประสิทธิภาพใช้งานสูง ด้วยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i5-12500H Processor 2.5 GHz, Intel® UHD Graphics, RAM 8GB DDR4 on board + 8GB DDR4 on board พร้อมหน่วยเก็บข้อมูลขนาด 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD, WIFI6 เชื่อมต่อได้รวดเร็ว

กล้องหน้ามี webcam shield สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หากเราไม่ต้องการใช้งานกล้องและต้องการความเป็นส่วนตัว เราก็ปิดสวิตช์ตัวกล้องแม้ตัวกล้องจะถูกแฮ็กหรือถูกโจมตีก็ไม่สามารถบันทึกภาพของเราได้ ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น หากเราต้องการใช้งานก็แค่เลื่อนเปิดเหมือนเดิม

ตัวกล้องหน้าทำงานร่วมกับ Windows Hello เพื่อปลดล็อคเข้าใช้งาน Windows ด้วยใบหน้ามีเซ็นเซอร์ตรวจจับและวัดระยะใบหน้าที่ชื่อว่า ASUS AdaptiveLock เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง IR camera และ proximity sensor ทำให้การปลดล็อคด้วยใบหน้าทำได้เร็วขึ้น

โดย AdaptiveLock ล็อคจะตรวจจับสิ่งที่อยู่ด้านหน้าจอและใช้กล้องอินฟาเรดเป็นตัวจดจำใบหน้าและ login อัตโนมัติ ทำให้เราสามารถปลดล็อคได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องกรอกรหัสผ่านด้วยมือ หากเราลุกออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ตัว Notebook ก็จะล็อคตัวเองโดยอัตโนมัติ ป้องกันข้อมูลของเราถูกขโมย หรือมีใครแอบมาใช้งานและครอบครัวเราโดยไม่ได้รับอนุญาต

มาพร้อมกับ Full-sized keyboard ที่มีไฟ Backlit  สามารถปรับความสว่างของไฟได้ เลือกเปิด-ปิดได้ ที่สำคัญระยะห่างระหว่างปุ่ม 19.05 มม. แบบเต็มขนาดเหมือนกับคีย์บอร์ดเดสก์ท็อปทั่วไป ช่วยให้สามารถพิมพ์ด้วยความสบายและความแม่นยำและให้ประสบการณ์การพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม ปุ่มคีย์บอร์ดขนาด 0.2 มม. ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับรูปทรงของปลายนิ้ว มีระยะการกดที่ 1.4 มม. ช่วยให้พิมพ์ได้โดยไม่ต้องออกแรงกด ใต้ปุ่มมีโดมยางที่ ASUS สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านคีย์บอร์ด รับประกันแรงคลิกด้วยการกระแทกที่เหมาะสมตามที่ต้องการ

ปุ่ม Enter Key ที่ดีไซน์ตามแบบฉบับของตระกูล ASUS Vivobook

พื้นผิวของแล็ปท็อปมีแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายหลายพันตัว เพื่อให้แล็ปท็อปของเราถูกสุขอนามัย ทาง Asus จึงได้พัฒนา ASUS Antibacterial Guard ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้มากกว่า 99% ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นผิวของแล็ปท็อปจะสะอาดและถูกสุขอนามัยได้นานขึ้น และลดการแพร่กระจายของแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายผ่านการสัมผัส

ทัชแพดที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นหน้าจอ 15.6 นิ้วพอสมควร ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือในทัชแพด รองรับ Windows Hello ไม่จำเป็นต้องพิมพ์รหัสผ่านทุกครั้ง

ทัชแพด ErgoSense มีพื้นผิวมีการเคลือบพิเศษแรงเสียดทานต่ำที่ป้องกันรอยนิ้วมือ เคลือบป้องกันรอยนิ้วมือแบบ PVD ระดับไฮเอนด์ที่รับประกันความทนทานและการฉีกขาดที่ดีเยี่ยม การเคลือบนี้ยังทำให้พื้นผิวทำความสะอาดได้ง่ายมาก และถึงแม้หลังจากผ่านไปมากกว่า 10,000 สไลด์ ทัชแพดก็ยังคงราบรื่นเหมือนใหม่

พร้อมการรับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็ม ครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก และการรับประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก

ASUS SonicMaster รุ่นล่าสุด เป็นการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการปรับแต่งเสียงที่ออกแบบโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้รับประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุด ได้เสียงอันทรงพลังและเสียงเบสที่ทุ้มลึก

การเชื่อมต่อครบครัน สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย สะดวก

• 1x USB 2.0 Type-A
• 1x USB 3.2 Gen 1 Type-C
• 2x USB 3.2 Gen 1 Type-A
• 1x micro HDMI 1.4
• 1x 3.5mm Combo Audio Jack

Vivobook 16X มีการออกแบบที่สวยงามและสะดุดตา มีความบางพอที่จะใส่ลงในกระเป๋าเป้แบบสบาย ๆ และเบาพอสำหรับการถือด้วยมือเดียวอย่างง่ายดาย น้ำหนักอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม

กางได้ 180 องศา สามารถเปิดใช้งานได้อย่างอิสระ เหมาะกับการพรีเซ้นงานในการประชุม และมี fingerprint สแกนลายนิ้วมือสำหรับlogin เข้าเครื่องบริเวณทัชแพด

เปรียบเทียบหน้าจอ 16 นิ้ว และ 15.6 นิ้ว

ความได้เปรียบของโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ 16 นิ้วตัวนี้คือได้พื้นที่หน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิมมาก เมื่อเทียบกับ 15.6 นิ้ว โดยมีขนาดเทียบเท่า 15.6 นิ้ว และน้ำหนักใกล้เคียงกันกับ 15.6 นิ้ว

โน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว ทำให้ได้พื้นที่ทัชแพดที่ใหญ่กว่าเดิม

อัตราส่วน 16:10 ทำงานได้สบายตา แสดงผลได้มากขึ้น

สรุป

ASUS Vivobook 16X (X1603, 12th Gen Intel) เหมาะสำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงาน ที่มองหาโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงสำหรับการสร้างสรรค์งาน และตอบโจทย์ด้านความบันเทิง มาพร้อมสีใหม่ พร้อมดีไซน์ใหม่ พร้อมฟีเจอร์ใช้งานครบครัน ทั้งพอร์ตเชื่อมต่อ และ เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนรอบข้าง

โดย ASUS Vivobook 16X (X1603, 12th Gen Intel)  รุ่นที่วางขายคือโมเดล X1603ZA-MB501WS: Intel® Core™ i5-12500H Processor 2.5 GHz  / Intel® UHD Graphics / 8GB DDR4 on board + 8GB DDR4 on board / 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD/ 16-inch WUXGA (1920 x 1200) 16:10 / 1.88 kg/ Windows11 Home / Office Home and Student 2021 included/ One-Month Membership of Adobe Creative Cloud All Apps

• facebook
• twitter
• line

ติดตามเพจ

Asus Intel Windows 11

Pannaphat Kosasaeng (krapalm)

ปัณณพัทธ์ โกษาแสง (Pannaphat Kosasaeng) กระปาล์ม หรือ @krapalm หนึ่งในผู้ก่อตั้ง digitalmore.co อาชีพหลักเป็นพนักงานประจำ เขียนโปรแกรมเลี้ยงชีพ ชอบเทคโนโลยี ชอบการลงทุน ติดตามข่าวสารใหม่ๆ ติดต่องานได้ที่ krapalm@digitalmore.co ติดตามเวปในเครือ: https://linktr.ee/krapalm บล็อกส่วนของของเรา : https://pannaphat.me/ Facebook: facebook.com/pannaphat.me | Twitter: @krapalm