ก่อนหน้านี้เราได้ รีวิว Asus VivoBook Pro 15 OLED ให้ชมกันไป ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กจอ OLED ที่ Asus พึ่งเปิดตัวและวางขายในไทยไป ในชีรีย์ของจอ OLED ปี 2021 มีด้วยกันหลายรุ่น อาทิ ASUS VivoBook 15 OLED, ASUS VivoBook Pro 14/15 OLED และ ASUS ZenBook 14 OLED และในวันนี้เราจะมา รีวิว ASUS ZenBook 14x OLED ให้ชมกัน ถือเป็น OLED ตัวที่สองของซีรีย์ ASUS OLED ปี 2021
ASUS ZenBook 14 OLED หรือในรีวิวนี้จะเรียกว่า ZenBook 14x OLED เป็นโน้ตบุ๊กจอสัมผัสขนาดกะทัดรัด 14 นิ้ว บางเบา พกพาสะดวก เพียง 1.4 กิโลกรัม ดีไซน์มาในสี Pine Grey ยังคงเอกลักษณ์ความเรียบหรูสไตล์ ZenBook พร้อมอัตราส่วนหน้าจอ 16:10 เพิ่มพื้นที่การทำงาน ช่วยให้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยขอบจอบางตามแบบฉบับของ ZenBook
ZenBook 14x OLED มีด้วยกัน 2 โมเดล คือ UX5401EA-KN511TS ราคา 38,990 บาท และ UX5401EA-KN711TS 45,990 บาท ต่างกันที่ชิป ที่เหลือก็สเปกเดียวกันเลย วางจำหน่ายพร้อมปากกา ASUS Pen ที่รองรับแรงกดมากถึง 1024 ระดับ ใช้งานวาดเขียนได้อย่างอิสระยิ่งขึ้น พร้อมติดตั้ง Windows 10 Home และ Microsoft Office Home & Student 2019 พร้อมใช้งานตลอดอายุเครื่อง
รีวิว ASUS ZenBook 14x OLED (UX5401) โมเดล UX5401EA-KN711TS : Pine Grey
UX5401EA-KN511TS : Pine Grey |
||
---|---|---|
Operating System: | Windows 10 Home | |
CPU: | Intel® Core™ i5-1135G7 Processor | |
Intergrated GPU: | Intel® Iris Xe Graphics | |
RAM: | 16GB LPDDR4X on board | |
Storage: | 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD | |
Display: | 14” OLED 400nits WQXGA+ 90Hz 16:10 PANTONE® Validated Touch screen |
|
Keyboard: | Backlit Chiclet Keyboard | |
NumberPad: | YES | |
FingerPrint: | YES | |
Office: | Office Home and Student 2019 | |
ราคา : | 38,990.- บาท |
UX5401EA-KN711TS : Pine Grey |
||
---|---|---|
Operating System: | Windows 10 Home | |
CPU: | Intel® Core™ i7-1165G7 Processor | |
Intergrated GPU: | Intel® Iris Xe Graphics | |
RAM: | 16GB LPDDR4X on board | |
Storage: | 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD | |
Display: | 14” OLED 400nits WQXGA+ 90Hz 16:10 PANTONE® Validated Touch screen |
|
Keyboard: | Backlit Chiclet Keyboard | |
NumberPad: | YES | |
FingerPrint: | YES | |
Office: | Office Home and Student 2019 | |
ราคา : | 45,990.- บาท |
สำรวจตัวเครื่อง
Zenbook 14X OLED ถือว่าเป็นแล็ปท็อปหน้าจอสวยอีกรุ่น มาพร้อมกับจอแสดงผล 2.8K (2880 x 1800) OLED HDR ขนาด 14 นิ้ว ที่ให้ความดำลึกสุดและสีสันสดใส อัตราส่วน 16:10 ให้พื้นที่ในการทำงานที่ใหญ่ขึ้นกว่าจอแสดงผล 16:9 ทั่วไป
ขอบจอบางเฉียบ NanoEdge ทั้ง 4 ด้าน อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92 % เป็นหน้าจอแบบสัมผัส ค่าสีระดับ 100% DCI-P3 color gamut ระดับเดียวกับโรงภาพยนตร์ และได้รับการรับรองจาก PANTONE® (มีโลโก้ PANTONE® ติดเท่ๆ บนเครื่องด้วย)
อีกทั้งยังช่วยถนอมดวงตาด้วยการปล่อย แสงสีฟ้าที่น้อยลง แสงสีฟ้าลดลง 70% ที่สำคัญรับรองจากสถาบันชั้นนำ TÜV Rheinland
หน้าจอรองรับการสัมผัส หน้าจอมีความสว่างสูงสุด 400 nits ความสว่างที่ตารับได้ เทียบเท่า 724 nits ของ LCD อัตราส่วนของ Contrast 1,000,000:1 DisplayHDR™ 500 True Black certified
นอกจากนั้นหน้าจอให้ความเร็วการตอบสนอง 0.2 ms หรือเร็วขึ้น 50 เท่า เพื่อการใช้งานอย่างเรียบเนียน
มาพร้อมกับกล้อง 720p HD มีชุดไมโครโฟนในตัว มีการรองรับการรู้จำเสียง Cortana และ Alexa และที่สำคัญตัวไมโครโฟนยังรองรับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน ASUS AI Noise-Canceling ทคโนโลยีนี้ใช้ระบบ machine learning ในการแยกเสียงที่ไม่ต้องการออกจากเสียงของคน ฟีเจอร์ ClearVoice Mic บนแอป MyASUS
สามารถกรองเสียงรอบนอกได้ และโหมด Multi-Presenter ช่วยทำให้เสียงของสมาชิกทุกคนซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันมีความใกล้เคียงกัน เพื่อคุณภาพการคุยในกลุ่มที่ดีที่สุด ฟีเจอร์ ClearVoice Speaker กรองเสียงรบกวนออกทั้งหมดยกเว้นเสียงมนุษย์ คุณจึงสามารถได้ยินเสียงของทุกคนได้ชัดเจน
วางจำหน่ายพร้อมปากกา ASUS Pen ที่รองรับแรงกดมากถึง 1024 ระดับ ใช้งานวาดเขียนได้อย่างอิสระยิ่งขึ้น
บานพับเรียบ 180° ErgoLift เป็นบานพับที่ออกแบบมาอย่างแม่นยำ มีความแข็งแรง สามารถทำให้การแบ่งปันข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น ทำให้การทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมโต๊ะทำได้ดีขึ้น
มาพร้อมกับ Backlit Chiclet Keyboard สามารถปรับความสว่างของไฟได้ 3 ระดับ ช่วยให้สามารถมองเห็นแป้นพิมพ์ สามารถทำงานในสภาพแสงน้อย แป้นพิมพ์ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โครงสร้างแข็งแรงทนทาน และมีระยะกดเพียง 1.4 มิลลิเมตร เพื่อการพิมพ์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ที่สำคัญปุ่ม fn สามารถกดได้เลย โดยไม่ต้องกดปุ่ม fn ค้างไว้ ในทางกลับกันหากต้องการกดปุ่ม F1-F12 ต้องกดปุ่ม fn ก่อน และระบบเสียงได้รับการรับรอบจาก Harman Kardon
ปุ่มเปิด-ปิด ที่เป็นมากกว่าปุ่ม ดเพราะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วย เพียงใช้นิ้วแตะเบาๆ เพื่อเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือ ทำให้การเข้าสู่ระบบทำได้ง่ายด้วย Windows Hello
กดปุ่มฟังก์ชั่นเพื่อสั่งงานได้เลย
ทัชแพดที่มีความกว้าง และสั่งงานได้ลื่นไหล
มาพร้อมกับ ASUS NumberPad 2.0 แป้นแบบ dual-function touchpad ที่มาพร้อมแป้นตัวเลขส่องสว่างด้วยไฟ LED แม้ว่าแป้นตัวเลขจะเปิดอยู่ ก็สามารถใช้ touchpad ในการควบคุมเคอร์เซอร์ได้ด้วย แก้ปัญหาที่มีมานานของเครื่องแล็ปท็อปขนาดเล็กที่ไม่มีแป้นตัวเลข
NumberPad 2.0 พัฒนาขึ้นไปเยอะมาก ใช้งานได้ดีขึ้น มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพียงกดไอคอน NumberPad ด้านบนขวา 1 วินาที เพื่อเปิดหรือปิดฟังก์ชั่นนี้ และกดไอคอนด้านบนซ้ายเพื่อเลือกความสว่างของแป้น สามารถเลื่อนจากบนซ้ายในทางใดก็ได้เพื่อเปิดโปรแกรมเครื่องคิดเลขของ Windows บนจอแสดงผล ทำให้เข้าถึงได้เร็วขึ้น
มาพร้อมกับฟีเจอร์ USB-C® Easy Charge ชาร์จไฟได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ Zenbook 14X OLED ใช้งานกับที่ชาร์จ 5-20V USB-C ได้หลากหลาย สามารถใช้ชาร์จแบบด่วนพิเศษด้วยที่ชาร์จที่ได้รับการรับรอง PD (Power Delivery)
รวมไปถึงที่ชาร์จแบบเร็ว 100-watt ที่แถมมาให้กับ Zenbook 14X OLED หรือจะเสริมพลังให้กับเครื่องของคุณด้วยที่ชาร์จสำหรับบนเครื่องบิน ที่ชาร์จแบบพกพา หรือแม้แต่พาวเวอร์แบงค์
และช่อง Thunderbolt™ 4 USB-C® 2 ช่องบน Zenbook 14X OLED มีความเร็วสูง รองรับการชาร์จผ่าน USB-C และส่งข้อมูลได้เร็วถึง 40 Gbps สำหรับอุปกรณ์ความเร็วสูง เมื่อรวมกับ Thunderbolt 4 USB-C และช่อง HDMI ทำให้ Zenbook 14X OLED รองรับจอแสดงผลได้ถึง 4 จอแสดงผล
พอร์ตเชื่อมต่อ
- 1 x USB 3.2 รุ่น 2 Type-A
- 2 x Thunderbolt™ 4 รองรับการแสดงผล/การป้อนไฟ
- 1 x HDMI 2.0b
- 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- เครื่องอ่านการ์ด Micro SD
นอกจากนั้นยบังรอบรับ Wi-Fi 6(802.11ax) และ Bluetooth 5.0 (Dual band) 2*2
บานพับ ErgoLift ซึ่งเอียงด้านหลังของแล็ปท็อปเล็กน้อยเมื่อเปิดอยู่ ทำให้การพิมพ์ทำได้สบายมากขึ้น บานพับยังทำให้ตัวเครื่องมีการระบายความร้อนที่ดีขึ้น และคุณภาพเสียงก็ดีขึ้นเช่นกัน
ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810H ผ่านการทดสอบอันหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการกระแทก การสั่นสะเทือน การกดทบ และการตกจากที่สูง เพื่อให้ผู้ใช้ได้มั่นใจในความทนทาน
- ทดสอบอุณหภูมิสูง 30°C ถึง 63°C ตลอดเวลา แบบไม่เปิดเครื่อง
- ทดสอบอุณหภูมิต่ำ -25°C ถึง -33°C ตลอดเวลา แบบไม่เปิดเครื่อง
- ทดสอบการตก ตกจากที่สูง 100mm ขณะกำลังเปิดเครื่อง 4 ครั้งสำหรับแต่ละด้านของเครื่อง
- ทดสอบการเขย่า 5-500 Hz 3 ด้าน แบบสุ่ม 2 ชั่วโมงต่อด้าน
- ทดสอบความชื้นความชื้น 95% อุณหภูมิ 30°C และ 60°C ระยะเวลา 10 วัน
- ทดสอบกับพื้นที่สูงใช้ได้กับความกดอากาศบนเครื่องถึง 15,000 ฟุต
ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบระบายความร้อน เทคโนโลยี ASUS IceCool Plus อัพเกรดฮีทไปป์ 6 และ 8 มิลลิเมตร มีพัดลมคู่แบบ IceBlades ให้ระบายความร้อนได้ดีกว่า พัดลมคู่ 83 ใบแบบ IceBlades ทำมาจากพอลิเมอร์ผลึกเหลว ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบากว่าและบางกว่าพัดลมทั่วไป ใบพัดของ IceBlades มีดีไซน์ 3 มิติ Aerodynamic ซึ่งช่วยให้แรงลมดีขึ้น
นอกจากนั้น พัดลม IceBlades ยังมีแบริ่งแบบ fluid-dynamics ซึ่งช่วยลดการสั่นและลดเสียงได้เมื่อเทียบกับพัดลมทั่วไป และให้ตัวเลือกการใช้พัดลม 3 ตัวผ่านแอป MyASUS ช่วยให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดทุกเมื่อตามที่ต้องการ
ASUS Intelligent Performance Technology (AIPT) เป็นการออกแบบของระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง และเป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ใช้อัลกอริทึ่มของ ASUS ร่วมกับเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 5 ถึง 9 ตัว และพัดลมดีไซน์ Aerodynamic IceBlades รวมไปถึงพาวเวอร์ซัพพลาย 100 วัตต์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพของซีพียู
ในขณะที่ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานตลอดวัน อีกทั้งยังทำให้แล็ปท็อปเงียบและเย็นขึ้น ด้วย ASUS Intelligent Performance Technology แล็ปท็อปปของคุณจะสามารถใช้งานประสิทธิภาพสูงได้ตลอดเท่าที่ต้องการ
ASUS Intelligent Performance Technology มาพร้อมกับโหมดเงียบ โหมดสมดุล และโหมดความเร็ว ซึ่งสามารถปรับได้อย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มคีย์ลัด Fn + F อีกทั้งยังสามารถเลือกผ่านโปรแกรม MyASUS โดยการเลือกการตั้งค่าฮาร์ดแวร์ และเลือกโหมด ASUS Intelligent Performance Technology Modes แค่นี้ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้น 70%
TYPE-C, 100W AC Adapter, Output 20V DC, 5A, 100W, Input: 100~240V AC 50/60Hz universal
ชาร์จไฟผ่าน Type-C รับรอง PD (Power Delivery) รวมไปถึงที่ชาร์จแบบเร็ว 100-watt
ในกล่องแถม USB-A to RJ45 gigabit ethernet adapter มาให้ สำหรับคนที่ต้องการเชื่อมต่อ LAN
น้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม บางเพียง 15.9 มิลลิเมตร
ซอฟท์แวร์
ZenBook 14x OLED (UX5401) มาพร้อมกับ Windows 10 Home และสามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรี และ Microsoft Office Home & Student 2019 พร้อมใช้งานตลอดอายุเครื่อง
ด้วยสเปกความแรงของชิป Intel® Core™ i7-1165G7 Processor 2.8 GHz (12M Cache, up to 4.7 GHz, 4 cores) แรม 16GB LPDDR4X และ 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 จึงไม่แปลกที่ตัวเครื่องจะตอบสนองได้ดีมากๆ เปิดอะไรก็รวดเร็ว ลื่นไหล ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นงานเบาๆ อย่างพิมพ์งานใช้ Word Excel เปิดเว็บใช้ Google Chrome ก็ใช้งานได้ดีเยี่ยม หรืองานที่ใช้ประสิทธิภาพเครื่องขึ้นมานิดหน่อยอย่าง ตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม Lightroom Photoshop หรือ illustrator ก็ใช้งานได้ สวยตรง ไม่ผิดเพี้ยน คนใช้โปรแกรมพวกนี้ไม่ต้องปวดหัวเรื่องสีจอไม่ตรงกันแน่ๆ
สำหรับใครที่ชอบถ่ายคลิป ก็สามารถใช้งานโปรแกรมตัดต่อวิดีโอได้บนรุ่นนี้ได้ เพียงแต่ว่าคลิปที่ทำความยาวอาจจะได้แค่ระดับนึง ถ้าต้องเรนเดอร์หนักๆ ก็อาจจะใช้เวลานานขึ้นตามความหนักของคลิป แนะนำว่าให้อัพเกรดแรมเพิ่ม อีกทั้งตัวเครื่องไม่ได้ให้การ์ดจอแยกมา แม้จะใช้ Intel® Iris Xe Graphics แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับงานวีดีโอจริงจัง
ทดสอบดูวีดีโอ 4K บน Youtube ให้ความสวยงามและคมชัดของภาพสูงมากๆ และจอแสดงผลของแล็ปท็อป ASUS OLED ช่วยคง 100% DCI-P3 color gamut ที่ทั้งความสว่างสูงและต่ำ จอแสดงผล ASUS OLED สามารถที่จะแสดงรายละเอียดได้ดีแม้ความสว่างจะน้อย เนื่องจาก contrast ที่สูง คง color gamut ได้มากในสภาวะสว่างน้อย สามารถจำลองสีได้ทุกความระดับสว่าง
ทำให้เราปรับความสว่างหน้าจอได้ให้เข้ากับพื้นที่ในการทำงาน โดยที่ยังสามารถมีความสุขกับสีที่สดใสเป็นพิเศษได้ เห็นได้จากในสภาวะห้องนั่งเล่นทั่วไป (ซึ่งแสงมักจะอยู่ที่ 100 lux) จอแสดงผล OLED ใช้ความสว่างเพียงแค่ 177 nits ก็จะได้ภาพที่ชัดเจนเท่ากับจอแสดงผล LCD ที่สว่าง 400 nits ที่ความสว่างน้อยกว่าบนจอ OLED จะมีแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายน้อยกว่า
True black เราจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น จอแสดงผล ASUS OLED สามารถจำลองสีดำได้อย่างสมบูรณ์แบบ 1 พิกเซลของจอ OLED มีพิกเซลย่อย 3 พิกเซล ทั้งหมดสามารถส่องสว่างได้เอง จอแสดงผลขนาด 2.8K (2880 x 1800) มีจำนวน 9,216,000 พิกเซล ซึ่งหมายความว่ามีพิกเซลย่อยที่ส่องแสงได้ 27,648,000 พิกเซล
เทียบได้กับไฟ LED ของจอแสดงผล Full HD LCD ได้หลายเท่า เมื่อแสดงผลสีดำบนจอแสดงผล OLED พิกเซลต่างๆจะปิดลง ทำให้ความมืดกลืนกินในที่สุด ซึ่งทำให้ภาพมีความชัดเจนแม้จะเป็นฉากที่มืดที่สุด
รองรับมาตรฐาน WiFi 6 ปรับแต่งด้วยเทคโนโลยี ASUS WiFi Master Premium สามารถที่จะโหลดข้อมูลออนไลน์ได้ในชั่วพริบตา และยังดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี ASUS WiFi Master Premium ซึ่งรวมไปถึง ASUS WiFi Stabilizer และ ASUS WiFi SmartConnect เพื่อให้มีสัญญาณ WiFi ที่เสถียรที่สุด WiFi Stabilizer กรองเอาการรบกวนไร้สายอื่นๆออกไป
เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อได้ด้วยความเร็วสูงสุด WiFi SmartConnect ตัวเลือกที่จะช่วยเลือก WiFi ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น Zenbook 14X OLED สามารถเลือกสัญญาณ WiFi และ hotspot ที่ดีที่สุดได้อย่างไร้รอยต่อ
ทดสอบประสิทธิภาพ
สรุป
ASUS ZenBook 14x OLED (UX5401) มาพร้อมกับ Windows 10 และอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรี และยังมาพร้อมกับโปรแกรมด้านภาพ หรือการใช้งาน Microsoft Office มาพร้อมความคมชัดระดับ 2.8K OLED HDR แสดงผลค่าสีได้อย่างเหนือระดับด้วย DCI-P3 100% มาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในวงการภาพยนตร์
พร้อมโปรเซสเซอร์สูงสุด 11th Gen Intel Core i7 อันทรงพลัง, หน่วยความจำ (RAM) 16GB LPDDR4X, หน่วยเก็บข้อมูลขนาด 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD เหมาะสำหรับทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่หนักหน่วงหรือความบันเทิง
วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 38,990 บาท พร้อมการรับประกัน ASUS Exclusive Care บริการซ่อมถึงที่ 3 ปีเต็ม, ประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก และ ประกัน 3 ปี International Warranty ครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก
ช่องทางสั่งซื้อ
- UX5401EA-KN511TS – JD CENTRAL
- UX5401EA-KN711TS – JD CENTRAL
- UX5401EA-KN511TS – Lazada
- UX5401EA-KN711TS – Lazada