FutureTales Lab by MQDC ผนึกคณะสถาปัตยกรรมฯ สจล. จัดงานฟอรั่ม มุ่งฉายภาพเมืองในอนาคต เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกกลุ่ม

22 สิงหาคม 2565, กรุงเทพฯ – ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ โดยบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (FutureTales Lab by MQDC) ร่วมกับ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานฟอรั่มครั้งแรกของปี ภายใต้หัวข้อ “Future Habitat for the Next Generation จินตภาพเมืองในอนาคต เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกกลุ่ม” งานฟอรั่มที่พูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองและความสำคัญของการออกแบบที่อยู่อาศัยในอนาคตของเราทุกคน มาร่วมเปิดมุมมองแนวความคิด

ต่อยอดความรู้ด้านอนาคตศึกษาและโอกาสในโลกเมตาเวิร์ส (Metaverse) เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสัมผัสประสบการณ์โชว์เคสจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Metaverse และโชว์เคสการออกแบบเมืองแห่งอนาคต (Future habitat showcase) โดยมีนักเรียน นิสิตนักศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเมือง สถาปนิก นักนวัตกร รวมถึงผู้สนใจด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยเข้าร่วมงานที่ FutureTales Lab by MQDC ชั้น 8 ทรูดิจิตอล พาร์ค และทาง Facebook Live

- ReZ01 - ภาพที่ 1

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ โดยบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (FutureTales Lab by MQDC) เปิดเผยว่า การจัดงานฟอรั่มครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่าง FutureTales Lab by MQDC ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตศาสตร์ และคณะสถาปัตยกรรมฯ สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาด้านการออกแบบเมืองและที่อยู่อาศัยชั้นนำของประเทศไทย เป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการปลุกความคิดเปิดมุมมองด้านการพัฒนาเมืองที่คำนึกถึงอนาคตของทุกคน ภายใต้หัวข้อ “Future Habitat for the Next Generation จินตภาพเมืองในอนาคต เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกกลุ่ม” เพื่อฉายภาพการพัฒนาเมืองในอนาคต

ตลอดจนต่อยอดไปสู่การพัฒนาและออกแบบเมืองในโลกเสมือนเมตาเวิร์ส เพื่อดึงทั้งโลกจริงและโลกเสมือนเข้ามาใกล้กัน ภายใต้การดำเนินการที่จะไม่ทำให้เกิดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำขึ้น

ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมฯ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)​ กล่าวว่า เป้าหมายใหญ่ของการศึกษาในวันนี้และอนาคตอันใกล้ คือร่วมพัฒนาคนของประเทศให้พร้อมเป็น พลเมืองโลก หรือ Global citizens เพราะปัญหาระดับประเทศและโลกต่อจากนี้ต้องอาศัยความร่วมมือในระดับสากลอย่างมาก เรื่องที่อยู่อาศัยหรือการพัฒนาเมืองก็เป็นตัวอย่างสำคัญเพราะโลกนี้เชื่อมกันหมดแล้ว ดังนั้น การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของมนุษย์จะต้องมีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมที่มี เครือข่ายทั้งองค์ความรู้และพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยภาคอุดมศึกษา ในการพัฒนาคน ความร่วมมือระหว่างคณะสถาปัตย์พระจอมเกล้าลาดกระบังกับ FutureTales Lab by MQDC ในครั้งนี้เรามีจุดมุ่งหมายร่วมกันนั่นคือให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดและออกแบบเมืองในอนาคตซึ่งเป็นที่ที่เขาต้องอยู่และรับมือกับความท้าทายระดับโลก

“บทบาทของมหาวิทยาลัยในปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง จากความไม่แน่นอน ความซ้ำซ้อน และความผันผวนที่ไม่สามารถคาดเดาได้เหมือนเดิม ถึงแม้เราไม่ต้องการเปลี่ยน แต่กระแสของโลกและสังคมก็จะผลักดันให้เราต้องเปลี่ยน มหาวิทยาลัย อาจจะไม่สามารถปรับตัวได้ทันเท่ากับภาคอุตสาหกรรม แต่ภาคอุตสาหกรรมก็ไม่มีเวลาเพียงพอกับการศึกษาองค์ความรู้เชิงลึก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเกิดความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม หรือเป็นการ Connect The Dot ระหว่างกัน เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพของกันและกันให้สูงยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับความร่วมมือระหว่างคณะสถาปัตย์พระจอมเกล้าลาดกระบังกับ FutureTales Lab by MQDC ในครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในอีกหลายความร่วมมือที่จะผลักดันมหาวิทยาลัยจาก University เป็น Multi University” ผศ.ดร.อันธิกา กล่าว

ดร.การดี กล่าวเพิ่มเติมในปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “5 ปรากฎการณ์เทคโนโลยีที่จะส่งผลต่อไลฟ์สไตล์ในอนาคต (5 Technology Phenomena that Impact Your Lifestyle)” ว่า สำหรับปรากฎการณ์ด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆว่าจะมาเปลี่ยนชีวิตของเราทุกคนและการออกแบบพัฒนาเมืองในอนาคต ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ปรากฎการณ์ด้วยกัน ประกอบด้วย 1.Big Data & AI เทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มีการพัฒนาไปสู่ Near – Human Emotion ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถจับหน้าตา ท่าทาง อารมณ์ของมนุษย์ รวมถึงการนำปัญญาประดิษฐ์มาวิเคราะห์เพื่อช่วยลดอาชาญากรรม หรือ Crime​ Predicting AI ซึ่งล่าสุดมหาวิทยาลัยชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาพบว่า มีความแม่นยำถึง 90% ซึ่งรัฐบาลของสหรัฐฯ เตรียมนำเรื่องดังกล่าวมาใช้วิเคราะห์เมือง ที่สามารถนำมาประยุกต์กับประเทศไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนประเด็นของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสำรวจพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยอย่างอวกาศ หรือ AI in expedition อย่าง MQDC และ Futuretales Lab ก็จับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดและให้ความสำคัญกับเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของอวกาศเช่นกัน

2.Robotics & Automation เราจะเห็นการทำงานของหุ่นยนต์ที่เข้าถึงมนุษย์มากขึ้นเรื่อย จากเดิมที่จะกระจุกตัวส่วนใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม แต่ในปัจจุบันเราจะเห็นการทำงานของหุ่นยนต์ในภาคบริการที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของมนนุษย์มากขึ้นหลายเท่าตัว อาทิ หุ่นยนต์ส่งของ (Autonomous Delivery Robots) หุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับเป็นเพื่อน (AI-Powered Companion Robot)​ หุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Modular Robot Arm for Creative Makers​) ระบบบ้านอัจริยะที่ถูกควบคุมด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Automated Home Fueled by AI​)

3.Internet of Everything คือ การที่ทุกสิ่งถูกเชื่อมโยงเข้างสู่โลกอินเตอร์เน็ต ในอนาคตจะนำไปสู่ Internet of Behavior การเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตเข้าสู่พฤติกรรม และจะนำไปสู่ Internet of Senses คือการเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตเข้าสู่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อเข้าถึงความต้องการของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

4.Printing Technology เทคโนโลยีการพิมพ์ในปัจจุบันมีการพัฒนาไปไกลอย่างมาก ซึ่งกำลังพลิกโฉมการผลิต การก่อสร้าง และเข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบ การพิมพ์สามมิติเพื่อการก่อสร้างโครงสร้างบ้านต่างๆ (3D Printing Construction) การพิมพ์สามมิติเพื่อการก่อสร้างกระสวยอวกาศ (First-Ever Fully 3D Printed Rocket)​ การพิมพ์อาหารให้มีความสวยงาม (Smart Food Printers) และการผลิตยาตามความต้องการของแต่ละบุคคล (3D Printed Personalized Pills at Home​​)

5.Extended Reality คือ ประสบการณ์การปฏิสัมพันธ์แบบ 3 มิติ ที่ผสมผสานมุมมองของโลกจริงเข้ากับเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์ ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีไปอย่างมาก อาทิ Microsoft Holoportation การจำลองโมเดล 3 มิติของคน สัตว์ หรือสิ่งของ แล้วส่งไปยังผู้รับซึ่งอยู่ที่ใดก็ได้ในโลก ทั้งสองฝั่งสามารถมีปฏิสัมพันธ์ ได้แบบเรียลไทม์อย่างไร้รอยต่อ และ Personal AI Digital Twins หรือ​ฝาแฝดในโลกดิจิทัล คือ การจำลองของสิ่งต่างๆทางกายภาพให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล

“จะเห็นได้ว่า ปรากฎการณ์เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ ความเร็วของการพัฒนาเทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้มาก เดิมที่คาดการณ์ไว้อีก 5 – 10 ปี อาจเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น ดังนั้นในฐานะนักอนาคตศาตร์ และนักพัฒนาเมืองจะต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงในอัตราเร่ง เพื่อให้การออกแบบที่เกิดขึ้นสอดรับกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างที่เราสามารถเตรียมตัวตั้งรับได้ทัน” ดร.การดี กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ถูกโพสต์ หรือเขียนขึ้นโดย: บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

ทางทีม Digitalmore ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเขียนข่าวหรือโพสต์ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เว็บเป็นเพียงสื่อกลาง ที่เปิดให้เจ้าของข่าวประชาสัมพันธ์หรือตัวแทนโดยชอบธรรมได้โพสต์ด้วยตัวเอง

ติดตามเพจ