อินโนดิสก์ (Innodisk) บริษัทชั้นนำระดับโลกผู้ผลิตระบบจัดเก็บข้อมูลเกรดอุตสาหกรรมและอุปกรณ์ต่อพ่วงแบบฝัง เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AI แบบเอดจ์ โดยเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) แบบประมวลผลบนเอดจ์ขึ้นมาใหม่ ได้แก่ ไดรฟ์รุ่น 2.5″ SATA 3TS6-P, 3TS9-P และ M.2 (P80) 4TS2-P ซึ่ง AI SSD แบบเอดจ์รุ่นใหม่ของอินโนดิสก์นั้น มีความหน่วงต่ำ จำนวนการเขียนข้อมูลไดร์ฟต่อวัน (DWPD) และความจุสูง
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี iCell และ AES ช่วยปกป้องไม่ให้สูญเสียข้อมูลและเผชิญกับช่องโหว่ต่าง ๆ อินโนดิสก์มีเป้าหมายอยู่ที่การนำไปใช้ในแวดวงค้าปลีกอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ ระบบจัดการขนส่งอัจฉริยะ และการจัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่าย NAS โดยมอบความเร็ว ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพสูงระดับอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น
ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า ตลาดศูนย์ข้อมูลแบบเอดจ์น่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 24.58% ระหว่างปี 2563 กับ 2571 ขณะที่ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของ AI, IoT และ 5G ทำให้การนำข้อมูลไปใช้เปลี่ยนจากคลาวด์ไปเป็นเอดจ์ ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลแบบเอดจ์เป็นที่ต้องการมากขึ้น อินโนดิสก์จึงพร้อมเปิดตัวโซลูชันตลาดเซิร์ฟเวอร์แบบเอดจ์ และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ
เซิร์ฟเวอร์แบบเอดจ์จำเป็นต้องใช้ AI SSD แบบเอดจ์ เพื่อประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูงที่ต้นทาง แทนที่จะส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปที่ศูนย์ข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องความหน่วงและลดต้นทุน ยกตัวอย่างเช่น ระบบไฟบนท้องถนนและระบบติดตามการจราจรใช้ SSD เพื่อให้อ่าน/เขียนข้อมูลด้วยความเร็วสูงได้ ทั้งยังมีความจุสูงและความหน่วงต่ำในการประมวลข้อมูลแบบเรียลไทม์ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลแบบเอดจ์ก็ทำได้เช่นเดียวกัน SSD ใหม่เหล่านี้รองรับได้ถึง 6.4TB ซึ่งจะเข้ามาพลิกตลาดการจัดเก็บข้อมูลแบบเอดจ์และยกระดับประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานปลายทางได้อย่างแน่นอน
ซีซี อู่ (CC Wu) ผู้จัดการทั่วไปประจำแผนกแฟลชของอินโนดิสก์ ชี้ให้เห็นว่า อินโนดิสก์ได้เริ่มให้ความสำคัญกับการใช้งานต่าง ๆ ในแวดวง 5G และ AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่นี้ผสานขีดความสามารถของอินโนดิสก์ในการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเฟิร์มแวร์ อินโนดิสก์หวังว่า การเปิดตัว SSD ที่ผสานรวมจุดแข็งของ SSD เกรดอุตสาหกรรมเข้ากับคุณลักษณะของ SSD ระดับศูนย์ข้อมูล จะเข้ามาคว้าโอกาสทางธุรกิจด้านการประมวลผลแบบเอดจ์ และตอบรับกับความต้องการในภาคส่วนที่เติบโตต่อเนื่อง