ผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดชี้คนไทยใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัล สูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค โดย 81% ใช้ระบบดิจิทัลในการบริการการเงินส่วนบุคคลในชีวิตประจำวัน

Lazada

ที่สะดวก รวดเร็ว และยืดหยุ่นต่อการใช้งานมากกว่า

- Mastercard New Payments Index 2022 cover - ภาพที่ 1

กรุงเทพฯ 23 กันยายน 2565 – ดัชนีผลสำรวจใหม่ล่าสุด Mastercard New Payments Index 2022 ชี้คนไทยส่วนใหญ่กำลังเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลเพื่อช่วยบริหารการเงินส่วนบุคคล ทั้งในการชำระค่าบริการธุรกรรมธนาคาร การเปิดบัญชีธนาคารใหม่ไปจนถึงการวางแผนทางการเงิน ผลวิจัยเผยว่ามีผู้บริโภคชาวไทยมากถึง 81% ที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลทำธุรกรรมทางการเงินอย่างน้อย 1 รูปแบบเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเรื่องที่ใช้งานมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ การชำระค่าบริการ 78% ธุรกรรมธนาคาร 75% และการเปิดบัญชีธนาคารใหม่ 64%

ผลสำรวจ Mastercard’s second annual New Payments Index ได้นำเสนอข้อมูลใหม่ล่าสุดทั้งในแง่พฤติกรรม ทัศนคติ และวิธีการชำระเงินที่ผู้บริโภคไทยนิยม ซึ่งมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคทั่วโลกครบคลุมตลาด 40 แห่งใน 5 ภูมิภาค ซึ่งรวมถึงตลาดใหญ่ 7 แห่งในเอเชียแปซิฟิกอย่างออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เวียดนาม และไทย

เมื่อพิจารณาในแง่การบริหารการเงินส่วนบุคคลจะพบข้อมูลที่น่าสนใจ การสำรวจชี้ว่าผู้บริโภคชาวไทยทั่วไปมีความตื่นตัวในการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อการชำระเงินสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค โดยคนไทยมีการใช้ระบบชำระเงินดิจิทัลในรูปแบบที่หลากหลายมากกว่า ซึ่งมีมากถึง 94% ที่เคยใช้การชำระเงินระบบดิจิทัลอย่างน้อย 1 รูปแบบเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะผ่านทาง Digital Wallets, QR codes, Buy Now Pay Later (BNPL), สกุลเงินคริปโต, ข้อมูลชีวมิติ หรือรูปแบบดิจิทัลอื่น ๆ โดยค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอยู่ที่ 88% นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 80% ยังเพิ่มการใช้งานระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลอย่างน้อยอีก 1 รูปแบบในช่วงเวลาเดียวกัน ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์การใช้งานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลจะนำมาซึ่งประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการเข้าถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กว้างขึ้น ความโปร่งใสทางธุรกิจมากขึ้น มีความมั่นคงปลอดภัยสูงขึ้น และในอีกหลาย ๆ แง่มุมที่สร้างความแตกต่างอย่างมหาศาลในการใช้งานประจำวันของเรา โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวไทยยังเพิ่มปริมาณการชำระเงินระบบดิจิทัลในทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งแสดงถึงการตอบรับต่อเทคโนโลยีใหม่นี้ในอัตราส่วนที่สูงมาก ผลการสำรวจยังชี้ว่าการใช้ระบบดิจิทัลที่สะดวกสบายนี้กำลังขยายขอบเขตไปไกลกว่าการชำระเงิน โดยครอบคลุมไปถึงการบริหารการเงินส่วนบุคคลแบบรายวันด้วย เห็นได้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังแทรกซึมสู่การดำรงชีวิตในทุกวันของมนุษย์ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลทางเศรษฐกิจและช่วยเสิรมสร้างการเติบโตในระยะยาวที่ยั่งยืนในประเทศไทย” ไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา มาสเตอร์การ์ด กล่าว

เมื่อสอบถามผู้บริโภคถึงเหตุผลที่ใช้ระบบดิจิทัลในการชำระเงิน ปรากฏว่าความสะดวกสบายคือเหตุผลหลัก (85%) ตามมาด้วยเรื่องความปลอดภัย (61%) และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมเงินได้ดีขึ้น (56%) อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสสำหรับผู้ให้บริการที่จะนำเสนอข้อมูลข่าวสารและการรับประกันที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค

ผู้บริโภคชาวไทยถือเป็นกลุ่มที่ตอบรับต่อเทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่สูงที่สุดของภูมิภาค โดยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ถูกใช้งานมากที่สุดคือ Digital Wallets (63%) ตามมาด้วยการชำระเงินผ่านการโอนเข้าบัญชี (55%) และ QR codes (54%) ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้บริโภคชาวไทยเป็นผู้ที่ปรับตัวต่อการใช้สกุลเงินคริปโตได้ดีมาก โดยมีถึง 25% ที่ใช้สกุลเงินคริปโตในการชำระเงินเมื่อปีที่ผ่านมา (เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 13%)