- สมัคร LazPayLater ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง
- สินเชื่อ Shopee SPayLater | ผ่อนของ Shopee ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง
- โปรโมชันส่งฟรี Shopee เดือนนี้ ปี 2566
- Xiaomi Mi Speaker 3 ลำโพงบลูทูธตัวละ 249 บาท เสียงดีมาก
- Lazada Electronics แจกคูปอง 350.- คูปองเงินคืน 20% + คูปองส่งฟรี
- LazBEAUTY เครื่องสำอางลดราคา เงินคืนสูงสุด 50%
โรคไมเกรน (Migraine) เป็นโรคทางสมองที่ส่งผลต่อระบบประสาท โดยจะมีอาการปวดศีรษะที่มีความรุนแรง บางครั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และแสบร้อนตามข้างหน้า สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเพศทั้งชายและหญิง แต่มักพบเป็นส่วนใหญ่กับผู้หญิงอย่างมาก สาเหตุของโรคไมเกรนยังไม่ชัดเจนแต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น อาการเป็นเมื่อเข้าสู่วัยหรืออาจเกิดขึ้นหลังจากการทำงานหนัก การเคลื่อนไหวหรือการทานอาหารที่ไม่เหมาะสม การแก้ไขโดยมักใช้การใช้ยาบางชนิดเพื่อควบคุมอาการปวดศีรษะและลดการเกิดอาการบ่อย ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไมเกรนได้ด้วย
เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาบทความนี้คงกำลังปวดหัวไมเกรน (Migraine) กำลังหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นอาการ สาเหตุ และวิธีแก้ หรือคนใกล้ชิดท่านมีอาหารไมเกรน และต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการปวดหัวไมเกรนอยู่แน่ๆ ในบทความนี้จะบอกเล่าประสบการณ์การต่อสู้กับอาการปวดไมเกรนของผมตลอดเวลา 10 ปี
ผมเริ่มปวดไมเกรนตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปีที่ 2 (ราวๆ นั้น จำได้ไม่แม่น) จุดเริ่มต้นมาจากเป็นคนสายตาสั้น แล้วช่วงนั้นไม่ชอบใส่แว่น แล้วก็ชอบเพ่งมองก็เลยทำให้ปวดไมเกรนตั้งแต่ตอนนั้นมา ยิ่งช่วงเริม่ต้นทำงาน ด้วยตัวเองเป็นโปรแกรมเมอร์ ซึ่งต้องอยู่หน้าคอมยาวนาน และประจำ แล้วยังทำงาน Freelance อีก ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนชั่วโมงในการอยู่หน้าคอมเข้าไปอีก ปัจจุบันผมปวดไมเกรนยาวนานเกิน 10 ปีแล้ว มีทั้งช่วงที่เป็นหนักๆ และช่วงที่หายปวดไปนานๆ จนนึกว่าหาย แต่ก็กลับมาปวดใหม่ได้อีก ไหนๆ ก็ปวดไมเกรนบ่อยขนาดนี้เลยเอามาเขียนบอกเล่าให้หลายๆ คนได้อ่าน เผื่อบางคนที่ยัไม่อาการหนักจะได้รับมือ และปฏิบัติตัวได้ถูก
โรคไมเกรน (Migraine) คือ อาการปวดหัวแบบเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะการปวดเฉพาะตัว คือ มีอาการปวดหัวแบบตุบๆ เป็นหจังวะ โดยมากมักปวดข้างเดียว หรือเริ่มจากปวดข้างเดียว พอปวดหนักๆ จะปวดพร้อมกัน 2 ข้าง และมีอาการปวดที่สามารถย้ายตำแหน่งไปมาได้ เช่นปวดขมับ แล้วไปปวดตรงกระบอกตา หรือท้ายทอยร่วม จะมีการปวดจากเบาๆ แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บางคนอาจจะมีอาการอย่างอื่นร่วม เช่น เวียนหัว อาเจียน เพลีย อ่อนแรง ไวต่อเสียง และแสง
อาการไมเกรนเป็นยังไง
อย่าถึกทักเอาเองว่าปวดหัวข้างเดียวจะตีว่าเป็นอาการไมเกรนไม่ได้นะครับ แนะนำให้หาหมออย่างถูกต้อง แล้วยึดตามคำวินัยฉัยของคุณหมอ อย่าตีความโรคเอาเอง เพราะมันอันตรายมากๆ หากเรากินยาโดยที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ เพราะบางโรคอาการปวดมันก็คล้ายกับการปวดไมเกรนมากๆ
- มีอาการปวดหัวตุบๆ เป็นระยะๆ บริเวณขมับ (ไม่เหมือนปวดหัวตอนเป็นไข้นะ)
- อาการปวดส่วนมากจะปวดข้างเดียว แต่บางครั้ง (ซึ่งบ่อย) ก็ปวดทั้งสองข้างเลย
- มีอาการปวดท้ายทอยร่วม ขึ้นอยู่กับความรุ่นแรง (ส่วนตัวไม่ค่อยเจอไปถึงจุดนี้)
- ปวดกระบอกตาข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง ถ้าปวดถึงตรงนี้บอกเลยว่านรกในชีวิตจริง
- ความรุนแรงแบบปวดน้อยๆ ไม่ค่อยมี ถ้าปวดน้อยๆ คือจุดเริ่มต้น เพราะปวดไมเกรนมันจะค่อยๆ ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดของมัน จะไปอยู่ที่ความปวดระดับกลางๆ ถึงรุนแรงมาก เหมือนหัวจะระเบิด
- อาการปวดไม่เคยจบในระยะเวลาอันสั้น ปวดได้ตั้งแต่ 4-24 ชั่วโมงเลย
- บางคนมีอาการคลื่นไส้ และอาเจียน (อันนี้ผมไม่เคย)
- ปวดจนเวียนหัว อันนี้ผมก็เป็นบ่อย
- อาการ migraine aura อาการมองเห็นแสงไฟสีขาวๆ แสงแวบๆ เหมือนโดนแสงแฟลช ตาพร่าวมัวช่วงสั้นๆ เป็นอาการเริ่มของอาการปวดไมเกรน ส่วนมากจะเป็นก่อนราวๆ 20-40 นาทีก่อนปวด
- (สำหรับผู้หญิง) บางคนจะปวดสัมพันธ์กับประจำเดือน
- หลังจากอาการปวดไมเกรนลดลง จะมีอาการเหนื่อย ไม่มีแรง อ่อนแรง
สุดท้ายร่างกายคนเราทนรับความเจ็บปวดได้ไม่เท่ากัน และอาการปวดไมเกรนมีความรุนแรงหลายระดับมาก ใครที่เป็นไมเกรน ไม่จำเป็นว่าต้องปวดหัวหนักๆ จนทนไม่ไหวเสนอไป บางคนเป็นอาการปวดไม่รุนแรง แต่มาถี่ๆ หรือปวดน้อยๆ ตุบๆ เป็นระยะเวลานานๆ อย่างไรก็ตาม ควรพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด
ยาแก้ปวดไมเกรนจากที่ลองมา ถ้าปวดมากๆ แล้วมากิน ไม่ช่วยอะไร ต้องกินก่อน หรือกินช่วงที่ปวดน้อยๆ
ไมเกรนขึ้นตา นรกทั้งเป็น
อย่างที่หัวข้อบอกเลย ผมโชคดีที่ปวดไมเกรนไม่รุนแรงถึงระดับมีอาการอาเจียนร่วม หนักสุดของผมคือมีอาการเวียนหัว แต่นี้ยังถือว่าเบาสำหรับผม แต่ถ้าเมื่อไหร่ปวดไปถึงกระบอกตาเมื่อไหร่ บอกได้เลยว่านี่คือการตกนรกทั้งเป็นมากๆ ปวดถึงจุดนี้ยาอะไรก็ไม่ช่วยให้หาย เราต้องทนอยู่กับมัน แต่ในโชคร้ายยังมีโชคดี จากที่ปวดมาก การปวดรุนแรงๆ แบบนี้จะปวดแค่ระยะเวลานึงเท่านั้น อาจจะ 2 – 4 ชั่วโมง ถ้าไม่หายปวด ก็จะลดความรุนแรงลง แต่แค่นี้มันก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นแล้ว เพราะมันปวดมากๆ เหมือนตาจะหลุดออกมา หัวจะระเบิด
ปวดไมเกรนบ่อย อันตรายไหม
อย่างน้อยยังมีเรื่องดีๆ อยู่ แม้ว่าการปวดไมเกรนจะทำให้เราปวดมากๆ ทรมานสุดๆ แต่ลำพังการปวดไมเกรนจะไม่เกิดอันตรายต่อสมอง แต่มันส่งผลต่อการดำรงชีวิตเรา รบกวนคุณภาพชีวิตมากๆ แต่มันก็ยังคงเป็นโรคอันตรายอยุ่ดี
แม้ไมเกรนอาจจะส่งต่ออันตรายได้น้อยมากๆ แต่ยาไมเกรนนั้นอันตรายมากๆ มีข่าวคนเสียชีวิตจากการกินยาแก้ปวดไมเกรนเยอะมากๆ ฉะนั้นการกินยาทุกอย่างควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ปวดหัวไมเกรน กินอะไรหาย
ไมเกรนมีทั้งของกินที่ช่วยกระตุก และของกินที่ช่วยใหเลดการปวดได้ แต่ข้อสำคัญอย่างแรกของไมเกรนคือ อย่าอดอาหารเด็ดขาด!! ในหัวข้อนี้จะบอกว่าอาหาร ผลไม้อันไหนเมื่อมีอาการปวดหัวไมเกรน กินอะไรหายบบ้าง
- น้ำเปล่า (ควรดื่มบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ดื่มทีละเยอะๆ นะ)
- ปลา หรือ น้ำมันปลา ที่มีไขมันโอเมก้า 3
- แซลมอน
- ข้าวกล้อง
- แตงโม
- ขิง หรือน้ำขิง
- ถั่วฝัก
- ธัญพืชไม่ขัดสี
- ผักใบเขียวเข้ม
- อาหารอื่นที่มีแมกนีเซียมสูง
- แคร์รอท
- มันเทศ
- เคล
- ดาร์คช็อกโกแลต (ลองก่อนนะครับ บางคนมันก็เป็นตัวกระตุ้น เช่น ผมเองกินไม่ได้เลย)
- กาแฟดำ (ลองก่อนนะครับ บางคนมันก็เป็นตัวกระตุ้น อีกอย่างยาแก้ปวดไมเกรนก็มีคาเฟอีนนะ)
- ควินัว
- กุ้ง
- ใบบัวบก
- ผักโขม
- งาขาว
ปัจจัยและสาเหตุที่ทำให้ปวดไมเกรน
จากที่หาข้อมูลมา โรคไมเกรนในปัจจุบันมีสาเหตุในการปวดไม่ทราบแน่ชัด แต่ละคนก็อาจจะมีต้นเหตุไม่เหมือนกัน อาจจะเกิดจากความผิดปกติของระดับสารเคมีในสมอง การสื่อสารกระแสในสมอง หรือการทำงานผิดปกติของหลอดเลือด แต่หลักๆ การปวดไมเกรน จะปวดได้ต้องมีสิ่งไปกระตุ้นมัน
ปัจจัยที่ทำให้ปวดไมเกรนจาก สภาพแวดล้อม หรือการปฏิบัติตัว
- แสงไฟแบบในผับ หรือในปาร์ตีนชอบเปิด (ผมไปได้ไม่ถึง 5 นาที ไมเกรนมาทันที)
- แสงไฟสว่าง ไฟกระพริบ หรือแสงแดดที่จ้ามากๆ
- อากาศร้อนเกินไป
- อากาศหนาวเกินไป
- อยู่ในที่เสียงดังเกินไป ฟังเพลงเสียงดัง ใส่หูฟังเปิดเสียงดัง
- ความเครียด
- นอนไม่เพียงพอ อดนอน หรือนอนไม่ตรงเวลา
- ตื่นไม่ตรงเวลา
- ออฟฟิศซินโดรม ก็สามารถทำให้ปวดไมเกรนได้นะ
- กลิ่นควัน กลิ่นฉุนแรงๆ เช่น ดอกไม้ น้ำยาปรับผ้านุ่ม ควันต่างๆ กลิ่นอาหารแรงๆ กลิ่นสารเคมี กลิ่นสี
- น้ำหอม
- สภาพที่มีอาการถ่ายเทน้อย หรือที่ที่มีคนเยอะมากๆ
- กินอาหารไม่ตรงเวลา
- กินอาหารบางประเภทมากเกินไป เช่นพวก ราเม็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เบคอน ใส้กรอก ของหมักของดอง
- อากาศเปลี่ยน ฝุ่น มลพิษทางเสียง
- ออกกำลังกายที่หนักเกินไป
- อย่าให้แอร์เปาหัว
- อย่าเปิดพัดลมจ่อตัวนานๆ
อาการที่กระตุ้นอาการปวดไมเกรน
- ผงชูรส
- ช็อกโกแลต
- กาแฟ
- ชา
- เครื่องดื่มชูกำลัง
- อาหารแปรรูป พวกใส้กรอก ลูกชิ้น แฮม เบคอน อาหารที่ผสมไนไตรท์
- ไวน์ เหล้า เบียร์ แอลกอฮอล์ทุกอย่าง
- น้ำตาลเทียม
- อาหารมันๆ หมูสามชั้นต่างๆ
- อาหารผัดที่ใช้น้ำมันพืชเยอะๆ
- ส้ม ใช่ส้มเขียวหวานนี่แหละ
- นม
- เนย
- ซีส
- ขนมปัง
- พิซซ่า
- อาหารที่มีสารกันบูด
- น้ำเย็นจัด (ควรงดในช่วงที่เป็นบ่อยๆ)
- ไอศครีม (ควรงดในช่วงที่เป็นบ่อยๆ)
- น้ำมะพร้าว รวมถึงมะพร้าวด้วย
- ของหมักของดอง
ถึงตรงนี้ไม่ต้องตกใจ เพราะจากที่รู้ว่า มีส่วนน้อยมากๆ ที่สามารถระบุได้ว่าอาหารอะไรที่ทำให้ตัวเองปวดไมเกรน เราแค่ต้องสังเกตุตัวเอง ว่ากินอะไรไปแล้วมีอาการปวดก็ลองงดมัน
วิธีรักษาไมเกรนด้วยตัวเอง
พักทันทีเมื่อเริ่มมีอาการ
เมื่อกำลังรู้สึกว่าปวดไมเกรน หากทำได้ให้หยุดพักทันที 10-20 นาที และควรพักในห้องที่มือและมีอากาศที่เย็น แต่ไม่เย็นจัดๆ และไม่มีเสียงดัง จะช่วยได้ แต่ใช้ได้กับบางคนเท่านั้น
ดื่มชา กาแฟ กับการปวดไมเกรน
ยาแก้ปวดไมเกรนบางตัวมีส่วนผสมของคาเฟอีน จากประสบการณ์ส่วนตัว ในช่วงที่เราปวดไมเกรนบ่อยๆ ประกอบกับเราติดกาแฟ หรือดื่มกาแฟเป็นประจำ สิ่งที่อยากแนะนำดังนี้
- ถ้าคุณเป็นคนดื่มกาแฟหนัก ให้ลดประมาณลง อย่าหยุดกาแฟกลางคัน เพราะเคยลองแล้ว ปวดหนัก และบ่อยกว่าเดิม
- ถ้าคุณดื่มกาแฟปกติ หรือน้อย ให้ลดซ็อต เช่นขอใส่แค่ ครึ่งซ็อตพอ ทำแบบนี้ไปสักระยะให้ร่างกายปรับตัว แล้วค่อยหยุด
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
พูดถึงการออกกำลังกาย ใครๆ ก็รู้ว่ามันดีต่อสุขภาพ แต่ต้องให้เหมาะสมกับตัวเอง สำหรับคนเป็นไมเกรน ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ เพราะมันจะทำให้ปวดไมเกรนได้ ต้องออกกำลังกายเบาๆ แต่ให้มีความถี่หรือความสม่ำเสมอ ส่วนตัวออกกำลังกายโดยการวิ่งเบาๆ 30 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์
หลักสำคัญคือออกกำลังกายให้มีความผ่อนคลาย อย่าให้เกิดความเครียด ความกังวลเด็ดขาด
ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
ไมเกรนเป็นโรคที่ไวต่อความเครียดมากๆ พอยิ่งสักนิด ไมเกรนมาได้ทันที ฉะนั้นการทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ และเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายก็จะช่วยลดปัจจัยการปวดไมเกรนได้
ปรับการกินอาหาร
ใครจะว่าไม่สำคัญ ส่วนตัวจากที่ลองมา พบว่าการกินนั้นสำคัญมากๆ บางคนเราปวดเพราะเรากินของที่ไปกระตุ้นมัน เช่นของที่มีความมันมากๆ ส่วนตัวจะไวต่อความมันมากๆ เช่น หมูกรอบ คอหมูย่าง ข้าวขาหมู เป็นต้น พวกนี้ผมกินแทบไม่ได้เลย ลองสังเกตดูว่าอาหารอะไรที่เรากินแล้วทำให้ปวดไมเกรน
ดื่มน้ำขิง
น้ำขิงกลายเป็นเครื่องดื่มประจำตัวของผม น้ำของช่วยลดอาการปวดได้อย่างดีเลย ช่วยให้การปวดลดลง ข้อเสียคืออาจจะดื่มยากสำหรับบางคน ผมเองก็คิดว่าดื่มยาก แต่พอกินไปสักพักจะชินกับความเผ็ดคอเบาๆ แนะนำให้ซื้อขิงผงแบบชงมาชงดื่ม ตัวนี้จะสะดวกกว่า ราคาต่อซองก็แพงอยู่ แต่คุ้ม ชงได้หลายเดือนเลย หารเฉลี่ยแล้วตกวันละไม่กี่บาท
ประคบเย็น
หากปวดไมเกรนมากๆ แนะนำให้ใช้เจลลดไข้ ที่มีขายตามร้านขายยา หรือในร้านสะดวกซื้อ แต่ข้อเสียมันคือราคาที่ค่อนข้างสูง แพงกว่าราคายาแก้ปวดไมเกรน 1 เม็ด แต่มันดีต่อสุขภาพในระยะยาวมากกว่า แปะเจลลดไข้ที่หน้าผากแล้วนอนหรือหลับตาสักพัก อาจจะไม่ดีขึ้นทันที แต่จากที่ทำด้วยตัวเอง อาการปวดจะลดลงจากเดิม
นวดกดจุด
ส่วนมากคนปวดไมเกรนจะมีปัญหาเรื่องการเกร็งตัวของกล้ามเนื้้อ บริเวณบ่า และต้นคอ ตรงนี้ถ้านวดเองไม่เป็นอาจจะต้องไปร้านนวด หรือฝังเข็มก็ช่วยได้
นอนและตื่นนอนเวลาเดิม
- นอนในที่มือสนิท ไม่มีแสงเข้า และความเป็นที่มีเสียงเงียบสงบ
- นอนเวลาเดิม และตื่นเวลาเดิมในทุกๆ วันให้ตรงเวลาได้มากที่สุด
เช่น ถ้าเข้า 22:00 ตื่น 06:00 ก็ให้ยืดเวลานี้แล้วนอนและตื่นให้ได้ จากประสบการณ์ส่วนตัว หากตื่นผิดเวลานี่จะปวดไมเกรนทันที และมีโอกาสที่จะปวดทั้งวันได้ง่ายๆเลย
ฟังดูอาจจะยาก แต่ไม่ยากอย่างที่คิดครับ แต่มันก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ปวดนะ แค่ลดปัจจัยลง ที่สำคัญควรนอนในที่มืดและเงียบสงบ
ที่มา:
- Don’t Eat! เลือกกินยังไง ไม่ให้เสี่ยงไมเกรน – Phyathai Hospital
- “ปวดไมเกรน” อยู่บ่อยๆ เพราะมีพฤติกรรมเหล่านี้ หรือเปล่า! – โรงพยาบาลศิครินทร์ (sikarin.com)
- ปวดหัวไมเกรน อาการเป็นอย่างไร ควรรักษาแบบไหนดี ? (praram9.com)
- รู้ได้อย่างไร? ปวดหัวไมเกรน | โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (siphhospital.com)
- ปวดศีรษะไมเกรน รู้ทัน จัดการได้ | บำรุงราษฎร์ (bumrungrad.com)