ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) คือ ข้อมูลใดๆ ที่สามารถใช้ระบุตัวตนของบุคคลใดๆ ได้ หรืออาจจะใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เพื่อระบุตัวตนของบุคคลนั้นๆ อีกด้วย ซึ่งการระบุตัวตนนั้นสามารถเป็นไปได้ทั้งในลักษณะตรงๆ เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือในลักษณะที่เป็นอิงค์ของบุคคลนั้นๆ เช่น เลขประจำตัวประชาชน เลขทะเบียนรถยนต์ หมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นข้อมูลที่มีความลับและเป็นสิทธิของบุคคลนั้นๆ ดังนั้น การเก็บรวบรวม ใช้ และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลให้เป็นที่เรียบร้อย และต้องเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเช่นกัน อีกทั้ง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องดูแลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่มีอำนาจหรือการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต สุดท้าย การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต้องเป็นไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นอันตรายต่อเจ้าของข้อมูลและสังคม
ข้อมูลส่วนบุคคล สำคัญอย่างไร
ข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญอย่างมากเพราะมีผลต่อชีวิตและสิทธิของบุคคลนั้นๆ ดังนั้น ฉันจะอธิบายถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลตามด้านต่างๆ ได้ดังนี้:
- สิทธิของบุคคล – ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิของบุคคลแต่ละคน ซึ่งทำให้บุคคลนั้นสามารถควบคุมและจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้อย่างมีความเหมาะสม
- การเข้าถึงและการใช้ข้อมูล – การเข้าถึงและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล และต้องเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยให้ข้อมูลนั้นไม่ได้รับการนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ความปลอดภัยของข้อมูล – ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่มีความลับและต้องการความปลอดภัยในการเก็บรักษา ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องดูแลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่มีอำนาจหรือการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- การพัฒนาเทคโนโลยี – ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาอย่างมาก ช่วยให้การต่อยอดอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ตรงความต้องการมากขึ้น
วิวัฒนาการในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว แต่วิวัฒนาการในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีและวิวัฒนาการของสังคมไปเรื่อยๆ ดังนั้น เราจะอธิบายวิวัฒนาการในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามลำดับเวลาดังนี้:
- การเก็บข้อมูลด้วยตนเอง (manual data collection) – ในอดีต การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใหญ่เป็นการเก็บโดยตรงโดยผู้เก็บข้อมูลเอง ยังไม่มีเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลที่สามารถทำให้เก็บได้โดยอัตโนมัติ
- การเก็บข้อมูลโดยใช้กระดาษ (paper-based data collection) – หลังจากนั้น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเริ่มใช้กระดาษเป็นสื่อในการเก็บข้อมูล เช่น ใบสมัครงาน ฟอร์มการสมัครเป็นต้น
- การเก็บข้อมูลดิจิทัล (digital data collection) – ปัจจุบัน การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นโดยการเก็บข้อมูลดิจิทัล โดยมีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่น การใช้เว็บไซต์ในการเก็บข้อมูล เก็บข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
- การเก็บข้อมูลในคลาวด์ (cloud-based data storage) – การเก็บข้อมูลในคลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่ให้ความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูล
อนาคตของการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นอย่างไร ?
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน และในอนาคตยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่เช่นกัน ดังนั้น จะอธิบายเกี่ยวกับอนาคตของการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ดังนี้:
- การใช้เทคโนโลยี AI ในการเก็บข้อมูล – การใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถปรับปรุงและแก้ไขข้อมูลเองได้โดยอัตโนมัติ และยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้ได้ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
- การเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเก็บข้อมูล – หลังจากมีการรายงานเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลในอดีต ผู้ใช้งานและองค์กรต่างก็เริ่มให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การตรวจสอบและกำกับการเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องจึงจะมีความสำเร็จ
- การใช้ Blockchain Technology ในการเก็บข้อมูล – Blockchain Technology จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ใน Blockchain จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต