บริษัทชั้นนำทั่วไทยเลือก Qualtrics ในการบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้าและพนักงาน ภายใต้ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

  • Qualtrics เปิดแผนขยายทีมงานและนวัตกรรมใหม่ตอบสนองความต้องการเทคโนโลยีเพื่อการบริหารประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น
  • บริษัทชั้นนำของไทยเลือกใช้แพลตฟอร์ม Qualtrics XM ทั้ง เอไอเอส, ธนาคารกรุงศรีฯ, SPRC และ Custom Asia
  • นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วยองค์กรเปลี่ยนผ่านประสบการณ์ลูกค้าและพนักงาน

กรุงเทพมหานคร, 25 พฤศจิกายน 2564 – บริษัทชั้นนำของไทยเลือก Qualtrics ผู้นำด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้า และผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือบริหารประสบการณ์ลูกค้า หรือ Experience Management (XM) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่และพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า พนักงาน แบรนด์ และผลิตภัณฑ์

ด้วยภาคธุรกิจและราชการกำลังเปลี่ยนผ่านประสบการณ์ลูกค้าและพนักงานในองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรม ความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไป แพลตฟอร์มการจัดการด้านประสบการณ์ Qualtrics มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึง วิเคราะห์ และจัดการกับข้อมูล เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สอดรับกับความต้องการของแต่ละคน รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของ Qualtrics

ปัจจุบัน องค์กรชั้นนำของไทยต่างเลือกใช้บริการของ Qualtrics เพื่อรักษา ดึงดูด และเพิ่มความผูกพันกับพนักงานภายในองค์กร ตลอดจนยกระดับประสบการณ์ลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งบริษัทดังกล่าว ได้แก่ แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส หรือ เอไอเอส (AIS) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) โรงกลั่นน้ำมันชั้นนำของไทย และ คัสต้อมเอเชีย บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำ

- Mr. Mao Gen Foo Head of Southeast Asia at Qualtrics - ภาพที่ 1

นายโฟ เหมา เจน ผู้บริหารประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Qualtrics กล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่องค์กรต่างๆ ของไทยกำลังเริ่มต้นเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ผ่านการบริหารจัดการประสบการณ์ Qualtrics ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้ลูกค้าสามารถรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานให้แข็งแกร่งและมีผลิตภาพ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของธุรกิจทั้งในปัจจุบันและที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นกระแสการลาออกจำนวนมากของพนักงาน หรือ Great Resignation และภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน”

“การบริหารจัดการประสบการณ์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทุกกระบวนการทำงานและทุกหน่วยงานในองค์กร และองค์กรที่เริ่มเส้นทางการเปลี่ยนผ่านการจัดการประสบการณ์ได้เร็วก็จะเป็นผู้ชนะในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ บริการและประสบการณ์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่ง Qualtrics จะเข้ามาช่วยจัดการประสบการณ์ลูกค้าและพนักงานผ่านการรับฟังและตอบสนองกับความต้องการของพวกเขามากที่สุด” นายโฟ กล่าวเสริม

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2560 Qualtrics ได้ขยายธุรกิจไปในหลายประเทศของภูมิภาค เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตของความต้องการทางเทคโนโลยี โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Qualtrics ได้ประกาศแผนการจ้างพนักงานใหม่ถึง 1,200 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ภายในปี 2567

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Qualtrics ได้แนะนำนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับแพลตฟอร์มการจัดการประสบการณ์ออกสู่ตลาด เพื่อช่วยองค์กรต่างๆ สร้างความสัมพันธ์เชิงลึกและประสบการณ์เฉพาะตัวกับลูกค้าและพนักงานอย่างแท้จริง ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แก่ Experience ID ที่ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองประสบการณ์เฉพาะตัวได้อย่างครอบคลุมทุกคน โดยอาศัยความสามารถจาก Clarabridge และ Usermind ซึ่งเป็นบริษัทที่ Qualtrics เข้าซื้อกิจการ

โดยทั้งสองเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูลการสนทนาและการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า Experience Design for Hybrid Work and Workplaces ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้างประสบการณ์การทำงานใหม่ เสริมประสิทธิในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและวางรากฐานการเติบโตของธุรกิจในสภาพการทำงานทั้งในรูปแบบไฮบริดและการทำงานในออฟฟิศ

- Qualtrics XM - ภาพที่ 3

ความสำเร็จขององค์กรไทยด้วย Qualtrics

ที่ผ่านมา องค์กรชั้นนำของไทยต่างเลือกใช้ Qualtrics ในการออกแบบและพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าและพนักงาน ได้แก่

เอไอเอส (AIS) มีการขยายแพลตฟอร์ม บริการและการปฏิบัติการทางดิจิทัล มุ่งให้ความสำคัญกับการส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกขั้นตอนของการบริการลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์ของ Qualtrics ได้เข้าไปผนวกอยู่ในช่องทางดิจิทัล ของเอไอเอส ทำให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เอไอเอสจะสามารถส่งมอบคุณค่าแบรนด์ให้ลูกค้า รวมถึงให้ข้อมูล นำเสนอบริการและความช่วยเหลือทางดิจิทัลแก่ลูกค้าได้มากที่สุด อาทิ แอปพลิเคชัน myAIS และเว็บไซต์

“เพื่อตอบสนองกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไทย เอไอเอส มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการเชื่อมต่อแต่ละภาคส่วนของประเทศ เพื่อสร้างประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่คนไทยทุกคน ตลอดจนพันธมิตรและเศรษฐกิจของประเทศ การใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Qualtrics ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และส่งมอบความสามารถทางดิจิทัล ความช่วยเหลือและการเป็นพันธมิตรของเราได้อย่างมั่นใจและรวดเร็ว สอดรับกับความต้องการของลูกค้าทุกคน” นางสาวขวัญชนก ป้องรุณหิต หัวหน้าฝ่ายจัดการประสบการณ์ลูกค้า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าว

ขณะที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้นำระบบของ Qualtrics เข้าไปช่วยให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อยกระดับประสบการณ์และสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า โดยข้อมูลเชิงลึกระหว่างลูกค้าและพนักงานช่วยให้ธนาคารสามารถออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความช่วยเหลือและประสบการณ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมั่นใจและฉับไว

นางฉัตรฤดี งามวลัยรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยพฤติกรรมและความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาในปัจจุบัน การพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญในการก้าวสู่ความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ธุรกิจ การใช้งาน Qualtrics ช่วยให้เราสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าของเราได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านความต้องการของลูกค้าได้อย่างเรียลไทม์ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในเวลาที่ใช่และช่องทางที่เหมาะสม”

สำหรับกรณีของ สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) โรงกลั่นน้ำมันชั้นนำของไทยนั้น การได้ข้อมูลเชิงลึกของพนักงานมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบกลยุทธ์องค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ผ่านความเข้าใจกับปัญหาที่พนักงานเผชิญ ทำให้ SPRC สามารถปรับตัว ปรับปรุง และพัฒนาแนวทางและนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น เพื่อแก้ไขแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้ยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลยุทธ์ด้านการบริหารบุคคลของบริษัท เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการเป็นองค์กรในฝัน (Employer of Choice) และบริษัทที่ทุกคนอยากทำงานด้วย (Best Place to Work)

“ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา SPRC มีการเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินงาน โดย Qualtrics เข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยเก็บฟีดแบ็ค และทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจและพนักงานในองค์กร โซลูชั่น Qualtrics ช่วยจำกัดความซับซ้อนของปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์เชิงบวกของพนักงานได้อีกด้วย” นายจิรศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จํากัด (มหาชน) กล่าว

ในส่วนของ Custom Asia บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการตลาดชั้นนำได้ใช้ Qualtrics เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิจัยให้แก่ลูกค้าทั่วโลก เพิ่มประสิทธิภาพในการวิจัยไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยที่ครอบคลุมหลากหลายประเทศผ่านการวิเคราะห์ผลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์องค์ประกอบร่วม (Conjoint Analysis) และประสบการณ์ผู้ใช้งาน ซึ่ง Qualtrics มีบทบาทสำคัญช่วยให้งานวิจัยได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องยังส่งผลให้ลูกค้าของ Custom Asia มีความเข้าใจผู้บริโภค รวมถึงแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น

ดร.ณิชา ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัสต้อม เอเชีย กล่าวว่า “ในฐานะนักวิจัย กว่าสิบปีที่ผ่านมา Qualtrics ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่เกินความคาดหมายของเรามาอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรม วิจัยอันก้าวหน้าเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จของ Custom Asia และ Qualtrics ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับการใช้งาน ด้วยเหตุนี้ ทำให้เราสามารถดำเนินงานวิจัยที่ใช้นวัตกรรมเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าผ่านข้อมูลที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของตลาดได้”

นวัตกรรมใหม่จาก Qualtrics

เพื่อเสริมแกร่งสถานะผู้นำทางด้านบริหารประสบการณ์ Qualtrics ได้แนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในช่วงหลายเดือน ได้แก่

  • Experience ID เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากระบบปฏิบัติการ Qualtrics XM โดยนำความสามารถจาก Clarabridge และ Usermind ซึ่งทั้งคู่เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์บทสนทนาและการดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ทำให้บริษัทสามารถส่งมอบประสบการณ์เฉพาะตัวผ่านข้อมูลจากหลากหลายช่องทางได้ ทั้งนี้ Experience ID จะทำหน้าที่ในการเก็บผลตอบรับของลูกค้าในทุกรูปแบบ ตั้งแต่บทสนทนาจากคอลเซ็นเตอร์ไปจนถึงโพสต์บนโซเชียลมีเดีย บทความรีวิวผลิตภัณฑ์และผลสำรวจ เพื่อให้บริษัทเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกและความต้องการของลูกค้าต่อแบรนด์ตลอดทั้ง Customer Journey ในระดับบุคคล
  • Spotlight Insights เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้นำองค์กรสามารถบ่งชี้และให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์พนักงาน ซึ่งครอบคลุมกหลากหลายประเด็นตั้งแต่ D&I (ความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงานในองค์กร) ประสิทธิภาพของหัวหน้างาน และการสื่อสารจากผู้นำองค์กร ซึ่ง Spotlight Insights นี้เอง จะช่วยให้คำตอบและตั้งคำถามที่เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของระดับการมีปฏิสัมพันธ์ของพนักงานต่อองค์กร ความแตกต่างทางเพศ ตลอดจนช่องว่างของประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในองค์กร
  • Experience Design for Hybrid Work and Workplaces เป็นโซลูชั่นใหม่ที่พัฒนามาจาก Qualtrics EmployeeXM™ ซึ่งช่วยบริษัทถามคำถามที่ถูกต้องและได้ข้อมูลเชิงลึกจากประเด็นที่สำคัญ เช่น ความต้องการของพนักงานในการเข้าออฟฟิศทั้งในด้านเวลาและเป้าหมาย ปัจจัยใดที่ช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงาน และนโยบายใดที่ช่วยยืดอายุการทำงานของพนักงานในองค์กร เป็นต้น ด้วยข้อมูลเชิงประสบการณ์เหล่านี้จะทำให้ผู้นำองค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ โดยไม่เพียงรักษาหรือดึงดูดคนเก่งเข้ามาทำงานในองค์กรได้เท่านั้น แต่ยังสร้างประสบการณ์การทำงานที่สอดรับกับสถานการณ์ตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป
  • EX25 เป็นกรอบการทำงานที่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อช่วยให้บริษัทรับฟังเสียงสะท้อนของพนักงานได้เป็นประจำ โดย EX25 ประกอบด้วยตัวบ่งชี้ 25 ข้อที่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การทำงานของพนักงานทุกคน และด้วย EX25 จะทำให้บริษัทสามารถตัดสินใจบนฐานของข้อมูลเพื่อสร้างความพึงพอใจในการทำงานของพนักงาน ตลอดจนดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาในองค์กร
  • Brand Impact Simulator เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจและให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของแบรนด์ (Brand Attributes) เช่น ใช้งานง่าย, ผลิตจากวัตถุดิบที่รักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์ชนะใจผู้บริโภค ทั้งนี้ บริษัทหรือองค์กรเอกชนสามารถใช้ Brand Impact Simulator ในการพัฒนาประสิทธิภาพทางการตลาดและการทำแคมเปญ เพื่อเร่งอัตราการการดึงดูดลูกค้าและการเติบโต

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Qualtrics สามารถเยี่ยมชมได้ที่ เว็บไซต์ qualtrics.com