วีโก (Wiko) สมาร์ทโฟนจากฝรั่งเศสตอกย้ำคอนเซ็ปต์สมาร์ทช้อยส์แนะนำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล View Series รุ่นต่อยอดจาก Wiko View2 มาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่ และกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ Wiko View3 Pro, View3 และ View3 Lite ซึ่งได้วางขายช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา
โดย View3 Pro วางขายที่ราคา 6,490 บาท View3 ราคา 4,990 บาท และน้องเล็กสุด View3 Lite วางขายที่ราคา 3,690 บาท
Wiko View3 Pro
ถือเป็นพี่ใหญ่ของตระกูลนี้ มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD 6.3 นิ้ว Full HD+ ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI เสริมด้วยเทคโนโลยี Big Pixel ที่ควบรวม 4 พิกเซลให้เป็นพิกเซลเดียว ช่วยให้ได้ภาพที่สว่างสดใสขึ้นกว่าเดิม รองรับการถ่ายวีดีโอ 1080p@30fps และรองรับ AI Face Unlock ด้วย
หน่วยความจำภายใน Rom 64GB และ Ram 4GB เพิ่ม microSD ได้ 256 GB รองรับการแสตนด์บายบนระบบ 4G พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และอุปกรณ์ในกล่องมีแถมเคสใส และฟิลม์กระจกมาให้
ดีไซน์กระจกสวยพรีเมียม มีให้เลือก 2 สีน้ำเงินไนท์ฟอลล์ (NightFall) และสีเขียวบลีนโอเชียน (Bleen Ocean) พร้อม Fingerprint sensor ทำงานได้รวดเร็ว ไม่แพ้เรือธงค่ายอื่นเลย แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
กล้องหลัง 3 ตัว นูนออกมาจากตัวเครื่อแงเล็กน้อย กล้องหลัก 12 MP กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 13 MP และเลนส์ช่วยปรับภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบเรียลไทม์ 5MP เอาใจคนชอบเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า 16MP แสงแบบไหนก็สวยได้ มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวให้ได้ภาพวีดีโอเหมือนมือโปร และโหมด Slow Motion & Time Lapse เต็มอิ่ม
มาพร้อมกับ Android 9.0 (Pie) จะมีอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ ผ่านทาง OTA เป็นระยะ มาพร้อมอินเตอร์เฟสของ Wiko ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเพียวแอนดรอยด์ มีหน้าตาที่แทบไม่แตกต่างกัน ไอคอนที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย มีความเรียบง่าย ฟีเจอร์ไม่เยอะ เน้นใช้งานได้จริง และเบา การตอบสนองดีที่สุดในบรรดาทั้ง 3 รุ่น จากการใช้งานไม่เจออาการหน่วงเลย
มีเซอร์เซอร์สแกนนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคเครื่อง และยังสามารถยังเป็นปุ่มย้อนกลับ หรือใช้งานเป็นปุ่มสั่งงานด่วนอาทิ เปิดแอพที่ต้องการ และโทรออกเบอร์ที่ต้องการ การตอนสนองของเซ็นเซอร์ทำงานได้ดี สแกนติดทุกครั้ง ตอนตั้งค่าก็ง่าย
นอกจากสแกนนิ้วแล้วยังสามารถใช้ Face Unlock สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานเครื่องได้อีกทาง เท่าที่ใช้งานก็ทำงานได้ดี เวลาจะใช้งานต้องกดเปิดหน้าจอก่อน สแกนได้เร็วพอๆกับสแกนนิ้วมือ แต่มีข้อจำกัดอยุ่ที่การใช้งานต้องมีแสงสว่างเพียงพอ ไม่งั้นจะสแกนไม่ติด
ตัวอย่างภาพจากกล้อง View3 Pro
Wiko View3
มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.26 นิ้ว ความละเอียด 720×1520 พิกเซล สัดส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ทั้งหมดที่มากถึง 88%
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แม้สภาพแสงแบบไหนก็สดใสอย่างเป็นธรรมชาติ มาพร้มอกับ AI ช่วยปรับแต่งภาพ รองรับ AI Face Unlock สำหรัลปลดล็อนเครื่องด้วยใบหน้าด้วย
หน่วยความจำภายใน Rom 32 GB, Ram 3GB รองรับการแสตนด์บายบนระบบ 4G พร้อมกันทั้ง 2 ซิม
ตัวเครื่องมี 3 สี คือน้ำเงินไนท์บลู (Night Blue), สีทองบลัชโกลด์ (Blush Gold) และสีเขียวบลีนอิเล็กโทร (Electro Bleen) ด้านหลังมี Fingerprint sensor สำหรับสแกนนิ้วมือในการปลดล็อคเครื่อง ทำงานได้รวดเร็ว แต่ไม่เร็วเท่ารุ่น View 3 Pro
แบตเตอรี่เต็มพลัง 4000 mAh ใช้งานได้นานถึง 2 วันจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว ผ่านการทดสอบโดย Smartviser พร้อมประสิทธิภาพจากหน่วยประมวลผลที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตร ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 15% (เมื่อเทียบกับหน่วยประมวลผลแบบ 14 นาโนเมตร)
กล้องหลัง 3 ตัว นูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย เต็มอิ่มทุกการถ่ายภาพ ประกอบไปด้วย 12 MP + 13 MP +2MP ซึ่งแต่ละตัวมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
- 12 ล้านพิกเซล (กล้องหลัก): ประกอบด้วยเซนเซอร์ของ Sony IMX486 พร้อมขนาดของพิกเซล 1.25 ไมครอน ทำให้รับแสงได้ดีขึ้น สภาวะแสงแบบไหนก็ลุยได้เลย
- 13 ล้านพิกเซล (เลนส์มุมกว้างพิเศษ): ขยายมุมมองในการเก็บภาพให้กว้างขึ้นถึง 120°
- 2 ล้านพิกเซล (เลนส์ปรับชัดลึก-ชัดตื้น): สร้างสรรค์จินตนาการได้อย่างเพลิดเพลินไปกับโหมดหน้าชัดหลังเบลอ
มาพร้อมกับ Android 9.0 (Pie) อินเตอร์เฟสของ Wiko ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเพียวแอนดรอยด์ มีหน้าตาที่แทบไม่แตกต่างกัน ไอคอนที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย มีความเรียบง่าย ฟีเจอร์ไม่เยอะ เน้นใช้งานได้จริง รองรับการใช้งาน Google Assistant, Google Lens, Google Photos และใช้งาน Motion Photos ได้
มีเซอร์เซอร์สแกนนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคเครื่อง สแกนติดทุกครั้ง แต่มีบางจังหวะจะสแกนช้าหน่อย และยังมี Face Unlock สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานเครื่องได้อีกทาง เท่าที่ใช้งานก็ทำงานได้ดี ความเร็วน่าพอใจ ไม่ได้ช้าจนต้องหงุดหงิด
ตัวอย่างภาพจากกล้อง View3
Wiko View3 Lite
มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.09 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1560×720 พิกเซล ขอบกระจกโค้ง 2.5D แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องหารหาฟิล์มติด เพราะในกล้องแถมเคสใสและฟิล์มมาให้เลย
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับ Face Unlock ปลดล็อคเครื่องด้วยใบหน้า
ซีพียู UNISOC SC9863A Octa-Core 1.6GHz หน่วยความจำภายใน Rom 32GB และ Ram 2GB รองรับการสแตนด์บายบนระบบ 4G พร้อมกันทั้ง 2 ซิม
มีให้เลือก 3สี Night Blue (สีน้ำเงินไนต์บลู), Blush Gold (สีทองบลัชโกลด์) และ Arctic Bleen (สีเขียวบลีนอาร์กติก พร้อม Fingerprint sensor ทำงานได้รวดเร็ว แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
กล้องหลังคู่นูนออกจากตัวเครื่องเล็กน้อย ประกอบไปด้วย กล้องหลัก13 ล้านพิกเซล และ 2 ล้านพิกเซล (เลนส์ปรับชัดลึก-ชัดตื้น) พร้อมแฟลช LED
พร้อมกับ Android 9.0 (Pie) ตั้งแต่โรงงาน อินเตอร์เฟสใช้งานง่าย ลื่นไหลในระดับนึง แต่จะสู้รุ่นพี่ทั้ง 2 ตัวไม่ได้ การตอบสนองยังมีหน่วงๆ บ้าง ไม่ค่อยเร็ว ฟีเจอร์ต่างๆ อย่าง สแกนนิ้วมือกับ Face Unlock ก็มีเหมือนกัน ฟีเจอร์อื่นๆแทบไม่ต่างจากรุ่นพี่ เสียแค่ไม่เหมาะกับการเล่นเกมเท่าไร