สิ้นสุดการรอคอย ซัมซูงเปิดตัว Galaxy Note8 อย่างเป็นทางการ มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด สเปกจัดเต็ม ฟีเจอร์จัดเต็ม อาทิ หน้าจอ 6.3 นิ้ว Inifinity Display ที่ทำให้ได้หน้าจอที่มากขึ้น แต่ตัวเครื่องใหญ่กว่าเดิมเพียงเล็กน้อย ใช้ชิปประมวลผลแบบ 10 nm แรมให้มาถึง 6GB กล้องหลังแบบ Dual Camera และ Dual OIS
และจุดเด่นเลยคือ S Pen ที่พัฒนาขึ้นไปอีก รองรับแรงกดที่มากขึ้น เปลี่ยนวัสดุหัวปากกาใหม่ เพิ่มคุณสมบัติการกันน้ำให้ทั้งตัวเครื่องและ S Pen
ตามกำหนดการ Galaxy Note8 จะเริ่มวางขายในอเมริกา วันที่ 15 กันยายนนี้ สำหรับสเปกและจุดเด่นมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=RKYjdTiMkXM
ข้อมูลสเปก
- รัน Android 7.1.1
- หน้าจอ 6.3-inch Quad HD+ Super AMOLED 2960×1440 (521ppi)
- ซีพียู Octa core (2.3GHz Quad + 1.7GHz Quad), 64bit, 10nm processor
- แรม 6GB RAM (LPDDR4)
- หน่วยความจำ 64GB เพิ่ม microSD ได้ 256GB
- กล้องหลัง Dual Camera with Dual OIS
- Wide-angle: 12MP Dual Pixel AF, F1.7, OIS
- Telephoto: 12MP AF, F2.4, OIS
- รองรับ 2X optical zoom
- รองรับ digital zoom 10X
- กล้องหน้า 8MP AF, F1.7
- รองรับ 2 ซิม
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO, 1024QAM,
- Bluetooth v 5.0 (LE up to 2Mbps)
- ANT+
- USB Type-C
- NFC
- ขนาด 162.5 x 74.8 x 8.6mm
- น้ำหนัก 195g
- แบตเตอรี่ 3,300mAh
- รองรับ Wireless Charging (WPC and PMA)
- Fast Charging QC 2.0
- กันน้ำกันฝุ่น IP68
ประสิทธิภาพ
มาพร้อมกับชิปประมวลผล Samsung Exynos 8895 เป็นชิปประมวลผลขนาด 10 nm ภายในประกอบด้วย Octa core (2.3GHz Quad + 1.7GHz Quad) แบบ 64bit มาพร้อมกับแรม 6GB RAM (LPDDR4) หน่วยความจำภายใน 64GB และเพิ่มได้อีก 256GB รัน Android 7.1.1
ส่วนแบตเตอรี่ให้มา 3,300mAh รองรับ Wireless Charging รองรับ Fast Charging QC 2.0
ตัวเครื่องรองรับ Gigabit LTE (LTE Cat. 16) และ Gigabit Wi-Fi รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO, 1024QAM
ดีไซน์
Note8 มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ Metal-Glass คล้าย Galaxy S8 ตัวเครื่องดูสวยขึ้น หรูขึ้น วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจก ส่วนบริเวณขอบของตัวเครื่องเป็น Aluminium 7000 Series (อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000) ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นวัสดุตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน iPhone 6s
สำหรับ Note8 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ Orchid Gray, Midnight Black, Maple Gold และสีใหม่อย่าง Deepsea Blue
หน้าจอ
มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียดต่อพิกเซลสูงถึง 521ppi หน้าจอเป็นแบบ Inifinity Display (แบบเดียวกับ Galaxy S8) ทำให้ขนาดของตัวเครื่องใหญ่กว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Galaxy Note 5 และตัวหน้าจอเป็นแบบโค้งเหมือนกับ S8 แต่ว่าของ Note 8 จะมีความโค้งของหน้าจอด้านข้างน้อยกว่า
หน้าจอแสดงผลความละเอียด 2K WQHD+ (2960×1440 พิกเซล) มีพื้นแสดงผลที่สามารถใช้งานได้จริงมากถึง 83.3% อัตราส่วนภาพ 18.5:9 เสริมความแข็งแรงของหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 5
ที่ขาดไม่ได้คือฟีเจอร์ Always-On Display ที่มีบน S8 ก็มีให้ใช้บน Note8 ด้วยเช่นกัน
S Pen
ปากกา S Pen ของ Note 8 คเพิ่มความสามารถจากตอนที่เปิดตัวกับ Galaxy Note 7 ไปพอสมควร (แม้จะไม่ถูกวางขาย) หัวปากกา 0.7 มม. โดยรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับเลยทีเดียว และที่สำคัญตัวหัวปากกาถูกออกแบบใหม่ ใช้วัสดุที่จไม่ทำให้หน้าจอเกิดรอย เวลาใช้แรงกดมากๆ ในการเขียน
ในแง่ฟีเจร์ของ S Pen เองก็พัฒนาไปจากเดิมมากขึ้น อาทิ Air Command สามารถทำงานได้หลากหลายขึ้น ทำงานควบคู่กับ Bixby ได้ มีีเจอร์ใหม่อย่าง Live Message ที่ช่วยให้เราสามารถเขียนภาพหรือสร้างข้อความเคลื่อนไหว เป็น Gif แล้วส่งให้เพื่อนทางแชทได้เลย
ฟีเจอร์เก่าอย่าง Screen off memo ที่ช่วยให้เราสามารถจดบันทึกโดยที่ไม่ต้องเปิดหน้าจอ เพิ่มความสามารถให้สามารถเขียนได้มากถึง 100 หน้า
กันน้ำทั้งตัวเครื่องและปากกา S Pen
Note 8 มาพร้อมกับความสามารถด้านกันน้ำ ผ่านมาตรฐาน IP68 ความพิเศษคือกันน้ำได้ทั้งตัวเครื่องและปากกา S Pen
กล้องคู่
Note 8 มาพร้อมกับกล้องหลังแบบคู่ Dual Camera ประกอบไปด้วย
- เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
- เลนส์มุมแคบ (Tele) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
จุดเด่นของกล้องคือเป็น Dual Pixel ช่วยให้การโฟกัสภาพเร็วขึ้นมาก มาพร้อมกับ Optical Zoom 2X และ Digital Zoom 10X นอกจากนั้นยังมี Dual OIS พูดง่ายๆ คือ กล้องทั้ง 2 ตัวมี OIS ของตัวเอง
ฟีเจอร์กล้องตัวใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ Dual Capture ช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพจากเลนส์ทั้ง 2 ตัวได้ภาพกัน และสามารถเลือกได้ทีหลังว่าจะเอาภาพมุมกว้าง หรือมุมแคบ
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับ Auto Focus รูรับแสง F1.7 มีโหมดหน้าเนียนเช่นเดิม
ระบบความปลอดภัย
มาพร้อมกับ Fingerprint Sensor (ระบบสแกนนิ้วมือ) อยู่ด้านหลังเหมือน Galaxy S8
นอกจากนั้นยังมี Iris Scanner และ Facial Recognition สำหรับปลดล็อกหน้าจอเช่นเดิม
ระบบเสียง
มาพร้อมกับหูฟังที่ถูกปรับแต่งโดย AKG เช่นเดิม คนที่เคยใช้ Galaxy S8 ก็คงรู้ถึงคุณภาพเสียงของหูฟังที่แถมมากับเครื่องดีอยู่แล้ว ฟีเจอร์เด่นอย่าง Seperate app sound ที่มีใน Galaxy S8 ก็มีบน Note 8 เช่นกัน โดยฟีเจอร์นี้ทำให้เราสามารถใช้เสียง 2 แอพได้พร้อมกัน
อุปกรณ์ภายในกล้อง Note8
- ตัวเครื่องและปากกา S Pen
- หัว S Pen พร้อมที่เปลี่ยน
- USB power adaptor
- Micro USB connector
- USB connector (USB Type-C)
- USB cable
- เข็มสำหรับจิ้มถาดซิม
- หูฟังที่ถูกปรับแต่งโดย AKG
- Case แบบใส