ซีเมนส์จับมือเอ็นวิเดีย ขับเคลื่อนเมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรม

- Jensen Huang Roland Busch original resized - ภาพที่ 1

7 กรกฎาคม 2565 – ซีเมนส์ (Siemens) ผู้นำระบบอัตโนมัติและซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีอาคาร และการคมนาคมขนส่ง และเอ็นวิเดีย (NVIDIA) ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีกราฟิกเร่งความเร็วและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประกาศขยายความร่วมมือเพื่อรองรับ

เมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มการใช้งานเทคโนโลยี Digital Twin ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะช่วยยกระดับระบบอัตโนมัติภาคอุตสาหกรรมไปสู่มาตรฐานใหม่

โรแลนด์ บุช ซีอีโอของซีเมนส์ และเจนเซ่น หวง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเอ็นวิเดีย ที่งานเปิดตัว Siemens Xcelerator เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

สำหรับก้าวแรกของความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัททั้งสองมีแผนที่จะเชื่อมต่อ Siemens Xcelerator ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัลแบบเปิด เข้ากับ NVIDIA Omniverse™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการออกแบบ 3D และการทำงานร่วมกัน  โดยการเชื่อมต่อดังกล่าวจะช่วยรองรับเมตาเวิร์สในภาคอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วยแบบจำลองดิจิทัลที่อ้างอิงหลักการทางฟิสิกส์จากซีเมนส์ และระบบ AI แบบเรียลไทม์จากเอ็นวิเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถดำเนินการตัดสินใจในเรื่องธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีความมั่นใจมากขึ้น

การเพิ่ม Omniverse ไว้ในระบบนิเวศพันธมิตรแบบเปิดของ Siemens Xcelerator จะช่วยกระตุ้นการใช้งาน Digital Twin ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิผลการทำงานและปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงการจัดการผลิตภัณฑ์ได้อย่างครบวงจร องค์กรธุรกิจทุกขนาดจะสามารถใช้ Digital Twin ร่วมกับข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์ สร้างนวัตกรรมโซลูชั่น IoT ภาคอุตสาหกรรม ใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่เครือข่ายเอดจ์หรือคลาวด์ และตอบโจทย์ความท้าทายด้านวิศวกรรมในอนาคต โดยทำให้การเข้าถึงแบบจำลองเสมือนจริงที่มีรายละเอียดสูงเป็นไปได้ง่ายขึ้น

โรแลนด์ บุช ซีอีโอของซีเมนส์ กล่าวว่า “แบบจำลอง Digital Twin ที่อ้างอิงหลักฟิสิกส์และมีความเสมือนจริงในเมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรม จะช่วยเพิ่มศักยภาพมหาศาลในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างโลกเสมือนที่ผู้คนสามารถโต้ตอบและทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกจริง  ภายใต้ความร่วมมือนี้ เราจะสร้างเมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรมสำหรับบริษัททุกขนาด  ตลอดช่วงเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยี Digital Twin ของเราช่วยให้ลูกค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มประสิทธิผลการทำงาน และเป็น Digital Twin ที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรมในวันนี้ เมื่อ Siemens Xcelerator ถูกเชื่อมต่อกับ Omniverse เราจะสามารถสร้างเมตาเวิร์สแบบเรียลไทม์ที่สมจริง โดยเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน มีความครอบคลุมตั้งแต่เครือข่ายเอดจ์ไปจนถึงคลาวด์ ด้วยข้อมูลที่ละเอียดรอบด้านจากซอฟต์แวร์และโซลูชั่นของซีเมนส์”

เจนเซ่น หวง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเอ็นวิเดีย กล่าวว่า “ซีเมนส์และเอ็นวิเดียมีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่า

เมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรมจะช่วยขับเคลื่อน digital transformation อย่างเป็นรูปธรรม  และนี่เป็นเพียงก้าวแรกในความพยายามร่วมกันของเราที่จะทำให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวเป็นจริงสำหรับลูกค้าของเรา รวมถึงทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก การเชื่อมต่อเข้ากับ Siemens Xcelerator จะช่วยให้ระบบนิเวศ Omniverse และ AI ของเอ็นวิเดียเปิดไปสู่โลกใหม่ของระบบอัตโนมัติภาคอุตสาหกรรม ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยใช้โซลูชั่นด้านเครื่องจักรกล, ไฟฟ้า, ซอฟต์แวร์, IoT และ เอดจ์ของซีเมนส์”

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสานรวมเทคโนโลยีและระบบนิเวศที่เกื้อหนุนกัน เพื่อสร้างเมตาเวิร์สสำหรับภาคอุตสาหกรรม  ซีเมนส์มีความพร้อมอย่างมากในการเชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน กล่าวคือเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และเทคโนโลยีส่วนปฏิบัติการ (OT)  ซึ่งแพลตฟอร์ม Siemens Xcelerator เชื่อมต่อโดเมนต่าง ๆ ทั้งในส่วนของเครื่องจักรกล ไฟฟ้า และซอฟต์แวร์ โดยครอบคลุมกระบวนการผลิตและการจัดการผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร และรองรับการผนวกรวม IT และ OT เข้าด้วยกัน

NVIDIA Omniverse เป็นโลกเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีการสร้างแบบจำลองตามหลักฟิสิกส์ ครอบคลุมขอบเขตระดับอุตสาหกรรม และถือเป็นการเปิดใช้งานแบบจำลอง Digital Twin  ที่มีความแม่นยำสูงสุดเป็นครั้งแรก ส่วน NVIDIA AI ซึ่งถูกใช้งานโดยบริษัทต่าง ๆ กว่า 25,000 บริษัททั่วโลก เป็นเครื่องมืออัจฉริยะของ Omniverse บนคลาวด์และระบบอัตโนมัติที่เครือข่ายเอดจ์ NVIDIA Omniverse และ AI เป็นเครื่องมือในการประมวลผลที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแสดงผลแบบจำลอง Digital Twin ที่ครบถ้วนสมบูรณ์จาก Siemens Xcelerator