Microsoft ประกาศวางจำหน่าย Surface Hub 2S สำหรับลูกค้าธุรกิจไทยอย่างเป็นทางการ โดยจะเรื่มวางจำหน่ายวันที่ 23 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เป็นอุปกรณ์ที่ครบครันในหนึ่งเดียวสำหรับการทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่จำกัดขอบเขตของสถานที่
พร้อมความสามารถในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลรอบตัวทั้งภายในและภายนอกองค์กร ตอบโจทย์โลกแห่งการทำงานยุคใหม่ที่ล้ำที่สุด ด้วยดีไซน์เฉียบ สะดวกในการเคลื่อนที่ ทำให้ทุกห้องกลายเป็นห้องประชุมที่สุดยอดได้ในพริบตา
จึงทำให้สามารถเปลี่ยนทุกพื้นที่ให้พร้อมรับมือกับการทำงานเป็นทีมได้อย่างราบรื่น ทั้งยังอัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือไปอีกขั้นสำหรับทีมงานมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์จากไมโครซอฟท์ ทั้ง Windows 10, Microsoft Teams, Microsoft Office 365, Microsoft Whiteboard และคลาวด์อัจฉริยะ เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานเป็นทีมอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีชุดอุปกรณ์เสริมอย่าง Steelcase Roam ซึ่งมีทั้งขาตั้งแบบมีล้อเลื่อนและแท่นสำหรับติดตั้งจอบนผนัง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกดึงสมรรถนะออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่มีสะดุด
มาพร้อมหน้าจอมัลติทัชระดับ 4K ขนาด 50 นิ้ว ดีไซน์ขอบจอที่บางที่สุดในเซกเมนต์ ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้สะดวก สัมผัสกับคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตาและลงตัว ช่วยให้ทีมปรับตัวทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด โดยย้ายการแชร์หน้าจอ ที่เคยมีอยู่แต่ในห้องประชุม มาอยู่บนคอมพิวเตอร์แบบพกพา ที่สร้างมาเพื่อการทำงานร่วมกันโดยเฉพาะ
ไม่ว่าทีมจะต้องขยับไปทำงานกันที่ห้องไหน ก็ตามไปได้ง่ายๆ ด้วยขาตั้ง Steelcase Roam Mobile Stand Steelcase ที่ไมโครซอฟท์ร่วมกันพัฒนากับ Steelcase เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และยังง่ายต่อการติดตั้งบนฝาผนัง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทำงานร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด
ขาตั้ง Steelcase Roam สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายโดยใช้เพียงมือเดียว และมีขนาดกะทัดรัด ใช้งานได้ในทุกพื้นที่ ส่วนชุดอุปกรณ์ติดตั้งบนฝาผนังเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับออฟฟิศส่วนตัว หรือพื้นที่ที่มีขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการยืนหรือเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัว มีขนาดบางกว่า Surface Hub รุ่นแรกถึง 60% พร้อมน้ำหนักที่เบากว่า 40% มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้กับผู้ใช้
ไกลแค่ไหนก็ทำงานเป็นทีมได้
มาพร้อม Microsoft Teams เพื่อให้ทีมงานได้มีส่วนร่วมในการประชุมมากขึ้น แม้จะทำงานอยู่กันคนละสถานที่ก็ตาม ผู้ใช้สามารถเริ่มการประชุมง่ายๆ ด้วยปุ่มเดียว ส่วนหน้าจอคมชัดขนาดใหญ่ระดับ 4K ที่มาพร้อมลำโพงที่ให้เสียงชัดเจนทุกรายละเอียด และไมโครโฟนแบบจับเสียงได้จากระยะไกล ช่วยให้ทุกคนในทีม ไม่ว่าจะอยู่สถานที่เดียวกันหรือห่างไกลออกไป สามารถมองเห็นและร่วมการประชุมได้อย่างราบรื่น เสมือนอยู่ในห้องเดียวกัน
ไม่ใช่แค่ตัวช่วยสำหรับการประชุม แต่ขับเคลื่อนทั้งทีมให้เดินหน้า
ช่วยให้ทีมสามารถทำงานออนไลน์ได้เต็มรูปแบบตลอดกระบวนการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นด้วยปากกา Surface Hub 2 Pen หรือการสัมผัสหน้าจอ เมื่อลงชื่อเข้าใช้งานบนบัญชี Office 365 ผู้ใช้ก็สามารถเข้าใช้งาน และเพิ่มเติมแก้ไขคอนเทนต์ ที่ต้องการบนแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของไมโครซอฟท์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน Microsoft Whiteboard ยังช่วยให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้บนกระดานดิจิทัลที่อ่าน วาด และเขียนได้จากหลายหน้าจอพร้อมกัน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดระเบียบเมื่อเสร็จสิ้น และให้ทีมทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด ฟีเจอร์ AI ที่มาพร้อมตัวอุปกรณ์ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงความคิดออกมาในชิ้นงานได้ในเวลาอันน้อยนิด ด้วยการรองรับหมึกดิจิทัลเพื่อการวาดเขียนบนกระดานเสมือนจริงบนคลาวด์ จึงทำให้การรวมทีมหาไอเดียกลายเป็นเรื่องง่ายในทุกโอกาส
ราคาและสถานที่จำหน่าย
Surface Hub 2S มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์ ประเทศไทยสำหรับลูกค้าภาคธุรกิจ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Add in Business, Ciphermed, ESCO (Thailand), Lannacom, M.I.S. Outsourcing, Ricoh (Thailand), RTB Technology และ WTC Computer
สำหรับราคาจำหน่าย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และอุปกรณ์เสริมในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้
*ราคานี้คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในเดือนมกราคม 2563 อาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาตามอัตราแลกเปลี่ยน