Asus เปิดตัวและวางขามือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ZenFone Zoom S ZE553KL หรือในชื่อเดิมคือ ZenFone 3 Zoom เป็นมือถือที่มาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องกล้อง ต่อยอดจาก ZenFone Zoom ตัวแรก
จุดเด่นหลักๆ ของรุ่นนี้คือ เป็นมือถือที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่และเทคโนโลยี SuperPixel ให้ภาพที่สวยสมจริง, เทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ PDAF แบบ Dual, เป็นมือถือกล้องคู่ที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 625, เซ็นเซอร์ขนาด 1.4 µm, และแบต 5,000 mAh
ZenFone Zoom S จะวางขายในไทยที่ราคา 16,900 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ Navy Black, Glacier Silver, Rose Gold
ข้อมูลสเปก
- หน้าจอ 5.5 FHD (1920 by 1080) AMOLED display มี Bluelight filter (ตัดแสงสีฟ้า)
- หน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass 5
- มี Fingerprint (เซ็นเซฮร์สแกนนิ้วมือ)
- ชิป Qualcomm Snapdragon 625 Octa-core 2.0 GHz
- แรม 4GB
- ชิปกราฟฟิก Adreno 506
- หน่วยความจำภายใน 64GB เพิ่มหน่วยความจำได้
- กล้องหน้า 13 ล้าน เซ็นเซอร์ SONY IMX214 sensor (1/3.06″, 1.12um) รูรับแสง f/2.0
- กล้องหลัง
- กล้องหลัก
- ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- ใช้เซ็รเซอร์ SONY IMX362 sensor (ขนาด 1/2.55″, ขนาดพิกเซล 1.4 µm)
- รูรับแสง f/1.7
- Focal Length 25 มม.
- TriTech+ Auto Focus เร็ว 0.03 วินาที
- Laser auto-focus Gen 2
- OIS 4 แกน สำหรับถ่ายภาพนิ่ง
- EIS 3 แกน สำหรับถ่ายวิดีโอ
- Dual-LED real tone flash
- ถ่ายวีดีโอ 4K UHD
- กล้องซูม
- ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- ซูมออฟติคอล 2.3 เท่า
- ซูมดิจิตอล 12 เท่า
- Focal length 59 มม.
- กล้องหลัก
- รองรับ Hi-Res audio 192kHz/24-bit
- 802.11 b/g/n
- Bluetooth 4.2
- รองรับ 2 ซิม
- SIM 1: 2G/3G/4G Nano SIM Card
- SIM 2: 2G/3G/4G Nano SIM Card
- แบต 5000mAh
- รัน Android 6.0 with ASUS ZenUI 3.0
- พอร์ต USB-C
- ตัวเครื่องหนา 7.99 มม.
- หนัก 170 กรัม
สำรวจตัวเครื่อง
อย่างที่สเปกด้านบนระบุไว้ รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 ความละเอียด FHD (1920 by 1080) มี Bluelight filter (ตัดแสงสีฟ้า) ตัวหน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass 5
โดยหน้าจอคิดเป็น 76.5% ของขนาดตัวเครื่อง ขอบของหน้าจอมีความโค้ง 2.5D ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถติดฟิล์มแบบเต็มจอได้ หน้าจอมีความสว่างสูงสุด 500nits
กล้องหน้า 13 ล้าน เซ็นเซอร์ SONY IMX214 sensor (1/3.06″, 1.12um) รูรับแสง f/2.0
ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส ที่ไม่ได้รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล ทำให้เราไม่ต้องเสียเนื้อที่ในการแสดงผลไปกับปุ่มควบคุม
ด้านล่างเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟน, ช่องชาร์จแบตที่เปลี่ยนมาเป็น USB Type-C และถัดไปเป็นลำโพงตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องเป็นไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวน
ตัวเครื่องออกแบบโดยใช้วัสดุที่เป็นอลูมิเนียม ตัวเครื่องหนาเพียงแค่ 7.99 มม. น้ำหนัก 170 กรัม เป็นมือถือกล้องคู่อีกรุ่นที่ตัวเครื่องไม่หนา
ปุ่มควบคุมต่างๆ จะอยู่ฝั่งขวามือ ประกอบด้วยปุ่ม Home และปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง ฝั่งซ้ายจะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งใส่ได้ 2 ซิม แบบ nanoSIM และเพิ่ม microSD ได้ ถ้าเพิ่ม microSD จะทำให้เราใส่ได้แค่ 1 ซิม
อย่างที่บอกตอนแรกตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม ผิวด้านหลังเพิ่มความด้านและกันลื่นด้วยการเป่าทราย Hyperfine ความละเอียด 0.125 มม. ลงไป
ตัวกล้องหลังจะนูนออกมาเล็กน้อย โดยรุ่นนี้เป็นกลัองถ่ายภาพคู่ Sony IMX362 มุมกว้าง 25 มม. ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.7 เซนเซอร์ขนาด 1.4 µm พิกเซล ทางยาวโฟกัส 59 มม. ออพติคอลซูม 2.3 เท่า และ ดิจิตอลซูม 12 เท่า ช่วยให้ทุกการถ่ายภาพของคุณได้ภาพที่คมชัดแม้ถ่ายภาพจากระยะไกล
ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี ASUS SuperPixel ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนในสภาพแวดล้อมยามค่ำคืนหรือแม้ในสภาวะแสงน้อย เทคโนโลยี ASUS SuperPixel ประกอบด้วยการปรับปรุงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ขั้นสูงโดยใช้เทคโนโลยี ASUS SuperPixel ทำให้ได้ความไวแสงที่สูงกว่า ถึง 10 เท่าของสมาร์ทโฟนทั่วไป
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังตัวเครื่อง สามารถเพิ่มได้สูงสุด 5 นิ้ว สามารถใช้ปลดล็อคเข้าเครื่อง ปลดล็อคเพื่อซื้อแอพ ปลดล็อคเพื่อเข้าแอพต่างๆ ที่รองรับ โดยความเร็วสแกนอยู่ที่ 0.3 วินาที และสแกนได้ 360 องศา
ซอฟท์แวร์
ZenFone Zoom S มาพร้อมกับ Android 6.0 พร้อมอินเตอร์เฟสเวอร์ชั่นใหม่ ASUS ZenUI 3.0 ตอบสนองได้อย่างลื่นไหล ไม่หน่วง ไม่ค้าง ไร้ปัญหาการกระตุก และมีแผนจะอัพเกรดเป็น Android 7.0 ให้เร็วๆ นี้ ซึ่งมีจะฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา อาทิรองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW
อินเตอร์เฟส Asus ZenUI 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ปรับปรุงให้มีความเรียบร้อย ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวเอง จุดเด่นของรุ่นนี้คือความอึดของแบต ตัวอินเตอร์เฟสเองสามารถดาวน์โหลดธีมได้จากระบบของ Asus ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายธีม
นอกจากนั้นทาง Asus ยังพัฒนาเครื่องมือสำหรับคนที่ต้องการย้ายข้อมูลจากเครื่องเดิมมาที่เครื่องใหม่ ได้ง่ายขึ้น
ฟังก์ชั่น ZenMotion มีให้เลือกใช้งานหลายตัว อาทิการวาดตัวอักษรต่างๆ เพื่อเรียกใช้แอพต่างๆ, แตะหน้าจอสองครั้งเพื่อปิดหน้าจอ, แตะสองครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ เป็นต้น
ฟังก์ชั่นห้ามรบกวน เป็นฟังก์ชั่นสำหรับจัดการเสียงแจ้งเตือน และเสียงริงโทน ในยามที่เราไม่ต้องการเสียง เช่นเวลานอน เราก็ตั้งไว้ว่า ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม จนถึง 6 โมงเช้า ห้ามแจ้งเตือน ปิดเสียงทุกอย่าง
ฟังก์ชั่นสแกนนิ้วมือ ส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับการที่เอาเซ็นเซอร์สแกนนิ้วไว้ด้านหลัง เลยไม่ถือเป็นข้อตำหนิ แต่ถ้าใครนิ้วสั้นอาจจะสแกนลำบากหน่อย ความเร็วในการสแกนถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ด้อยกว่าคู่แข่ง แต่ตอนตั้งค่าจะสแกนติดยากนิดนึง รวมถึงเวลาการตั้งการฟีเจอร์สแกนนิ้วมือดูงงๆ แบ่งเป็น 2 หน้าหลักๆ คือตั้งค่าการแตะที่เซ็นเซอร์เพื่อทำอะไร กับ ตั้งค่าลายนิ้วมือเพื่อใช้ทำอะไร
โดยเราสามารถใช้การสแกนนิ้วเข้าใช้งานแอพต่างๆ ที่รองรับ รวมถึงใช้จ่ายเงินใน Play Store แทนการกรอกรหัสได้ (สะดวกกว่ากรอกรหัสมาก)
สิ่งที่ผมชอบที่สุดในรุ่นนี้ก็คือแบตเตอรี่ เพราะแบตอึดมาก จากที่ใช้งานมา ผมเปิดเกมเล่นนานเกือบ 6 ชั่วโมง เล่นแบบต่อเนื่องไม่ออกจากเกมเลย พบว่าจากแบต 65% ลดเหลือ 25% ซึ่งประทับใจมาก ที่ผ่านมากหลายๆรุ่นจะแบตหมดตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงแล้ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเวลาเล่น ตัวเครื่องไม่ค่อนร้อนเท่าไหร่
การเล่นเกม ยังคงทดสอบด้วย Seven Knights เช่นเดิม นอกจากแบตจะอึดแล้ว รุ่นนี้ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล โดยที่ไม่ต้องลดความละเอียดกราฟิกเลยแม้แต่น้อย จากที่ใช้งานไม่เจอแม้แต่อาการกระตุก หรือหน่วงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถือว่ารุ่นนี้ในแง่การเล่นเกมทำได้ดีเยี่ยม
กล้อง
โหมดกล้องที่น่าสนใจมีอยู่หลายโหมด แต่เอาเข้าจริงๆ มีน้อยคนที่จะได้ใช้งานมันจริงๆ ผมเลยขอหยิบแค่บางโหมดมาพูดถึง ดังนี้
โหมดบิ๊วตี้ หรือโหมดหน้าเนียน อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก เป็นโหมดยอดนิยมของมือถือยุคนี้ไปแล้ว ความพิเศษโหมดนี้คือปรับแต่งได้เยอะมาก ทั้งโทนสี, สีผิว, ความเนียน, ตาโต, แก้มบาง เรียกได้ว่าปรับกันให้มึนไปเลย แต่เอาเข้าใจจริงๆ โหมดนี้ยิ่งปรับเยอะ จริงใช้งานยาก
โหมดถ่ายภาพชัดลึกและชัดตื้น จากการใช้งานพบว่ายังไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ และภาพที่ได้ก็ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เป็นโหมดที่มีเหมือนเอาไว้ประดับเฉยๆ ไม่ได้สวยเด่นแบบใน Huawei P9 อีกทั้งการถ่ายแต่ละทีก็ประมวลผลช้ามาก
โหมด HDR Pro โหมดนี่ในหลายๆรุ่นมี ที่ผมชอบคือมันเป็น Real Time HDR พูดง่ายๆ คือ ภาพที่แสดงในหน้าจอมือถือที่เราเห็น คือภาพ Real Time HDR ในขณะนั้น เราเห็นภาพยังไง ภาพที่ถ่ายมาจะเป้นโทนสีแบบนั้น ซึ่งในหลายๆ รุ่นตอนกดถ่ายเราจะเห็นภาพในจอมืดๆ หลังถ่ายเราถึงจะเห็นว่าของจริงสว่างหรือสวยแค่ไหน
โหมดซูมภาพ อย่างที่เราทราบกันจากสเปกว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับออพติคอลซูม 2.3 เท่า และ ดิจิตอลซูม 12 เท่า ผมมีตัวอย่างภาพถ่ายมุมปกติ และภาพถ่ายในมุมเดียวกันในขณะที่ซูมมาให้ดู
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
กล้องหน้า
กล้องหลัง
กลางคืน
กลางวัน
วีดีโอ