หลังจากที่เรารีวิวน้องเล็กของตระกูล Galaxy J อย่าง Galaxy J7 Core ให้ชมกัน คร่าวนี้มาถึงพี่ใหญ่อย่าง Galaxy J7 Pro ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Full HD Super AMOLED ใช้ชิป Exynos 7870 Octa แรม 3GB หน่วยความจำ 32GB กล้องหน้า 13 MP F1.9 กล้องหลัง 13 MP F1.7 มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้ว
โดย Galaxy J7 Pro จะวางขายที่ราคา 10,900 บาท มีสามสีให้เลือก คือ ดำ ทอง ชมพู ช่วงนี้มีโปรดมชั่น แถมฟรี เคสและฟิล์มกระจก จาก gorilla โปรโมชั่นถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ หรือจนกว่าของจะหมด (ซึ่งฟิลม์กระจกที่แถมมาเป็นแบบไม่เต็มจอ เมื่อใส่กับเคสทำให้เกิดช่องว่างระหว่างขอบจอกับขอบเคส ทำให้เราทัชหน้าจอไม่ได้ ผมแกะออกตั้งแต่วันแรกที่ติด)
ข้อมูลสเปก
- หน้าจอ Super AMOLED 5.5 นิ้ว Full HD
- ชิป Exynos 7870 Octa-core 1.6 GHz Cortex-A53
- ชิปกราฟฟิก Mali-T830 MP2
- แรม 3 GB
- หน่วยความจำ 32GB
- เพิ่ม microSD 256GB
- กล้องหลัง 13 MP, f/1.7, autofocus, LED flash
- กล้องหน้า 13 MP, f/1.9, LED flash
- ขนาดตัวเครื่อง 152.4 x 74.7 x 7.9 มม.
- มีเซ็นเซอน์สแกนนิ้วมือ Fingerprint
- แบต Li-Ion 3600 mAh
- รองรับ 2 ซิม
- รัน Android 7.0 (Nougat)
สำรวจตัวเครื่อง
หน้าจอ Super AMOLED 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080p Full HD (~73.3% screen-to-body ratio) รองรับ Always-on display แบบเดียวกับใน Galaxy S8 กระจกโค้ง 2.5D ตามสมัยนิยม
ความพิเศษของสีชมพูคือเป้นสีชมพูทั้งด้านหลังและด้านหน้า
อย่างที่บอกตอนแรกว่าตัวเครื่องแถมฟิลม์กระจกมาให้ ซึ่งเป็นแบบไม่เต็มจอ ด้วยความที่ขอบหน้าจอโค้ง 2.5D จึงทำให้ติดฟิลม์กระจกธรรมดาไม่ได้ ซัมซุงเลยแถมฟิลม์แบบไม่เต็มจอมาให้ ติดแล้วก็จะดูแปลกๆ หน่อย แนะนำให้หาซื้อฟิลม์กระจกที่เป้นขอบโค้งด้านข้าง หรือจำพวกฟิลม์ TPU
กล้องหน้าให้มา 13 MP รูรับแสง f/1.9 และมี LED flash ตัวกล้องมีโหมดหน้าเนียนเช่นเคย คุณภาพของกล้องหน้าอยู่กลางๆ ไม่ถึงกับสวยวิ๊ง
ปุ่มควบคุม 3 ปุ่ม โดยปุ่มโฮมเป็นแบบกด และเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้วย
ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วยรูไมโครโฟน, ช่องต่อ micro USB และช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม.
ด้านบนของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความโค้งมน จับถนัดมือ และมีความหรู วัสดุดูดีมาก ดูพรีเมี่ยม ฝั่งขวามือจะมีปุ่ม Power และช่องลำโพงของตัวเครื่อง
ด้านซ้ายจะมีปุ่มเพิ่มลดเสียง ช่องใส่ซิม 1 และช่องใส่ microSD และซิม 2
ผิวด้านหลังมีความหรูไม่เบา พื้นผิวมีความด้าน ทำให้จับถนัดมือ ไม่ลื่น และไม่เกิดคราบ ไม่เกิดรอยนิ้วมือเวลาถือ
กล้องหลังให้มา 13 MP รูรับแสง f/1.7 มี autofocus และ LED flash ตัวกล้องไม่นูนออกจากตัวเครื่อง
ซอฟท์แวร์
รุ่นนี้มาพร้อมกับ Android 7.0 (Nougat) อินเตอร์เฟสที่ใช้ใช้งาน ดูสวยงาม จากการที่ใช้งานพบว่าการตอบสนองได้ดีพอสมควร แต่ไม่ลื่นแบบใน Galaxy S8 สลับแอพไปมาบ้างครั้งยังมีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง ใช้งานมาราวๆ 1 เดือน เจออาการค้าง 1 ครั้ง อาการหน่วงค่อนข้างบ่อย และเจอค้างจน Restart ไปเอง 1 ครั้ง
ความน่าสนใจคือรองรับ dual messenger เป็นรุ่นแรกของซัมซุง ลงแอพได้สองแอพคู่กันแบบไม่
พร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง multi window ที่สามารถปรับความสูงของหน้าต่างแสดงผลแต่ละแอพได้อย่างอิสระ นอกจานั้นยังเพิ่มความสามารถใหม่เปิดกล้องเป็นหนึ
มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคเข้าใช้งานเครื่อง ใช้ยืนยันการซื้อแอพผ่าน Play Store ใช้ยืนยันการจ่ายเงินผ่าน Samsung Pay และยังสามารถใช้ล็อคแอพพลิเคชั่น ทำให้เราสามารถใช้งานแอพบางอย่าง ได้ 2 Account บนเครื่องเดียว อาทิ Facebook, LINE นอกจากนั้นยังสามารถใช้ล็อครูปหรือโฟล์เดอร์ได้อีกด้วย
โดยรุ่นนี้สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุด 3 ลายเท่านั้น
Always On Display ฟีเจอร์เดียวกับที่มีใน Galaxy S8 ช่วยให้สามารถดูนาฬิกา ปฏิทิน และการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอโทรศัพท์ เป็นฟังก์ชั่นช่วยประหยัดเวลาและพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รองรับ Samsung Pay ด้วย หลายท่านยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร Samsung Pay คือ บริการจ่ายเงินผ่านมือถือ (Mobile Pay) นวัตกรรมการชำระเงินผ่านสมาร์ท
วิธีใช้งานก็ง่ายๆ แค่เพิ่มบัตรเครดิตของเราเข้าในแอพ Samsung Pay จากนั้นเวลาซื้อของเรามีแค่มือถือก็สามารถจ่ายตังค์โดยใช้บัตรเครดิตที่บันทึกำว้ใน Samsung Pay ได้ทันที
ฟังก์ชั่นห้ามรบกวน เป็นฟังก์ชั่นสำหรับจัดการเสียงแจ้งเตือน และเสียงริงโทน ในยามที่เราไม่ต้องการเสียง เช่นเวลานอน เราก็ตั้งไว้ว่า ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม จนถึง 6 โมงเช้า ห้ามแจ้งเตือน ปิดเสียงทุกอย่าง
Smart Manager ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น Device maintenance แต่คุณสมบัติต่างๆ ยังคล้ายเดิม คือเป็นตัวจัดการทรัพยากรในเครื่อง อย่างแบตเตอรี่, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล), จัดการแรมของเครื่อง และระบบป้องกันอุปกรณ์
ฟังก์ชั่นสำหรับใช้งานมือเดียว เปิดใช้งานง่ายมาก โดยการกดการลากนิ้วบริเวณมุมขวาล่าง หรือกดปุ่ม Home 3 ครั้ง สามารถย่อขยายขนาดหน้าจอได้ สลับไปมาระหว่างซ้ายกับขวาได้
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
วีดีโอ