Wiko พึ่งวางขาย Wiko View Series มือถือแอนดรอยด์รุ่นใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วย 3 รุ่น คือ Wiko View Prime, Wiko View และ View XL ซึ่งมีวางขายช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ในบทความนี้เราจะรีวิว Wiko View ให้ชมกัน รุ่นนี้แตกต่างจาก View XL แค่เรื่องขนาดหน้าจอและแบตเตอรี่ (และราคา)
โดย Wiko View จะมาพร้อมหับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม Soft Light Selfie Flash ให้ภาพสวยเป็นธรรมชาติ และกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Live Portrait Blur) และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังที่ใช้เป็นชัตเตอร์กล้องได้
มีให้เลือก 4 สี Cherry Red, Gold, Black และ Deep Bleen วางขายที่ราคา 4,990 บาท
ข้อมูลสเปก
- มาพร้อมกับ Android 7.1 (Nougat)
- หน้าจอ IPS 5.7 นิ้ว HD+ (1440×720 pixels), pixel density: 282 PPI, กระจก 2.5D
- ซีพียู Snapdragon 425 MSM8917, Quad-Core 1.4GHz Cortex-A53
- ชิปกราฟฟิก Adreno 308
- หน่วยความจำ 16 GB เพิ่ม microSD ได้ 128 GB
- แรม 3GB
- รองรับ 2 ซิม
- 4G LTE 900/1800/2100/2300 MHz
- H+/3G+/3G WCDMA 850/900/2100 MHz
- FDD-LTE Cat. 4, DL 150 Mbps, UL 50 Mbps
- กล้องหน้า 16 Megapixels + Selfie Flash
- กล้องหลัง 13 Megapixels + Auto-HDR, Auto-Night, Auto-Portrait Blur, Panorama, Burst, Live filters, Super-High Resolution
- ขนาดตัวเครื่อง 151.5 x 73.1 x 8.7 mm
- น้ำหนัก 160 กรัม
- แบตเตอรี่ 2900 mAh
สำรวจตัวเครื่อง
มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 5.7 นิ้ว หน้าจอในอัตราส่วนใหม่ 18:9 ความละเอียด HD+ (1440×720 pixels) ความละเอียดต่อพิกเซลอยู่ที่ 282 PPI รองรับ Multi-touch 5 จุด ตัวหน้าจอเป็นกระจก 2.5D ทำให้ติดฟิลม์แบบธรรมดาไม่เต็มจอ ต้องใช้ฟิลม์จำพวก TPU
ตัวหน้าจอไม่มีเซ็นเซอร์ปรับความส่างหน้าจออัตโนมัติ ต้องค่ายปรับความสว่างเอง เรื่องความสด และสีสันของหน้าจอก็ตามมาตรฐานของจอ IPS
กล้องหน้าให้มาถึง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาดใหญ่ F/2.0 เลนส์ 5 ชิ้น พร้อมแฟลชสำหรับถ่ายเซลฟี่ ที่ใช้ชื่อว่า Light Selfie Flash ทาง Wiko บอกว่าจะช่วยให้ภาพสวยเป็นธรรมชาติ เซลฟีไม่มีแพ้ด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ LIVE PORTRAIT BLUR หรือปรับฟิลเตอร์ก่อนถ่ายพร้อมทั้งมี FACE BEAUTY อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีไฟ LED สำหรับแจ้งสถานะต่างๆ เช่นสายไม่ได้รับ ข้อความ และชาร์จแบต
ปุ่มควบคุมจำนวน 3 ปุ่ม รวมอยุ่ในหน้าจอแสดงผล
ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อ microUSB สำหรับชาร์จแบตและซิงค์ข้อมูล ถัดไปเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนา
ด้านข้างมีปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ถัดลงไปเป็นช่องสำหรับแกะฝาหลัง
ด้านบนเป็นช่องใส่หูฟังขนาด 3.5 มม.
วัสดุของตัวเครื่องออกแบบให้ดูเหมือนโลหะ ตัวเครื่องหนา 8.7 มม. น้ำหนัก 160 กรัม
ฝาหลังแบบถอดได้ ให้ความรุ้สึกเหมือนโลหะ ตัวกล้องหลังให้มา 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพมากมาย อาทิ Auto-HDR, Auto-Night, Auto-Portrait Blur, Panorama, Burst, Live filters, Super-High Resolution, Professional, Face Beauty, Time Lapse, Video Stabilization, Face recognition, Story, QR Code โดยรองรับการถ่ายวีดีโอ 1080p@30fps
ตัวกล้องจะนูนออกจากตัวเครื่องเล็กน้อย ถ้าใส่เคสก็ไมน่าต้องกังวลอะไร
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง หากใครเคยใช้มือถือที่เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมืออยู่ข้างหลังมาก่อนก็ไม่น่าติดปัญหาอะไร หากไม่ค่อยก็ต้องปรับตัวก่อนเล็กน้อย ช่วงแรกๆ จะแตะไม่ค่อยโดนเซ็นเซอร์
อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้แกะฝาหลังได้ และยังถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนเองได้ โดยแบตให้มา 2900 mAh ส่วนซิมรองรับ 2 ซิม แบบ microSIM และเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 128GB
ซอฟต์แวร์
มาพร้อมกับ Android 7.1 (Nougat) และมีระบบอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่าน OTA มีการปล่อยอัพเดทแก้ไขปัญหาเครื่องเป็นระยะๆ ตัวอินเตอร์เฟสเป็นแบบเรียบง่าย เกือบจะเป็นเพียวแอนดรอยด์ แต่ความลื่นยังแตกต่างจากเพียวแอนดรอยด์พอสมควร เท่าที่ใช้งานพบว่ายังมีอาการหน่วงเล็กน้อยเวลาเปิดแอพ และสลับแอพ
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือทำงานได้ดี มีสแกนช้าบ้าง สแกนไม่ติดบ้าง ขึ้นอยู่กับองศาที่วางนิ้ว สามารถเพิ่มนิ้วได้สูงสุด 5 นิ้ว และสามารถใช้งานอย่างอื่นได้ด้วย เช่นล็อคไฟล์ และการสั่งงานผ่านการสแกนนิ้ว เช่น นิ้วชี้ให้ให้โทรออกหาแม่ หรือนิ้วก้อยให้เปิดแอพ LINE เป็นต้น
นอกจากนั้นยังเซ็นเซอร์สแกนนิ้วยังสามารถทำงานได้แม้หน้าจอจะปิด ทำให้เราสามารถสแกนนิ้วเพื่อเข้าใช้งานเครื่องได้ทันที โดยไม่ต้องแตะหน้าจอเปิดก่อน และนิ้วที่เคยตั้งค่าไปแล้ว จะใช้ซ้ำไม่ได้
สามารถสั่งงานโดยการวาดที่หน้าจอ เช่นวาดตัว C ให้เปิดแอพโทรศัพท์, วาดตัว M ให้เปิดแอพเพลง, วาดตัว O ให้เปิดกล้อง และอื่นๆ อีกมาก อยู่ที่เราจะตั้งค่าทำได้ตั้งเปิดแอพ, โทรออก และส่ง sms
Smart Action เป็นฟังก์ชั่นสั่งงานแบบนึงที่มีมาให้ ความสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น เปิดหน้าจอด้วยการแตะ 2 ครั้ง, ล็อคหน้าจอด้วยการแตะ 2 ครั้ง, คว่ำโทรศัพท์เพื่อปิดเสียง, เมื่อมีสายเข้า ยกแนบหูจะเป็นการรับสายทันที เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชั่นจริงๆ มีหลายตัว แล้วแต่เราจะเลือกเปิดใช้งาน
เรื่องการเล่นเกม ผมได้ทดสอบกับเกม Lineage 2: Revolution โดยปรับภาพความละเอียดระดับปกติ พบว่าเล่นได้ ภาพสวย แต่มีหน่วงและอืดๆ เล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเล่นไม่ได้ หรือกระตุก