TVDH คาดธุรกิจ Q3 ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังเพิ่มประสิทธิภาพบริหารค่าใช้จ่าย ธุรกิจใหม่เริ่มสร้างรายได้ตามแผน

Lazada

บมจ.ทีวี โฮลดิ้งส์’ หรือ TVDH คาดไตรมาส 3/2565 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากผลลัพธ์การมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพบริหารค่าใช้จ่ายและการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายได้ของบริษัทย่อยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจใหม่ที่เข้าร่วมลงทุนในโครงการระบบกระจายสัญญาณใยแก้วนำแสงภายในอาคารของบริษัท เฟิร์สไมล์ เริ่มรับรู้รายได้แล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาตามแผน

ล่าสุดได้รับไฟเขียวจากบอร์ดจัดตั้งบริษัทใหม่ “ทีวีดี แคปิตอล” เพื่อรุกให้บริการสินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน พร้อมวางเป้าหมายนำบริษัทฯ ล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด

- คุณ ทรงพล ชัญมาตรกิจ tn scaled - ภาพที่ 1

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVDH เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2565 เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากการมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารค่าใช้จ่ายและการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายของบริษัทย่อยต่างๆ ภายใต้โฮลดิ้ง คัมปานี ได้แก่ ทีวี ไดเร็ค, ทีวีดี เอ็ม, ทีวีดี โบรกเกอร์, เอบีพีโอ, เอ็กซ์-เพรสโซ่ (ไทย) และฟู้ด ออเดอรี่ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจใหม่ที่เข้าไปลงทุน จึงคาดว่าจะเห็นการดำเนินงานของบริษัทฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกของปีนี้

นอกจากนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายล้างผลขาดทุนสะสมทั้งหมด โดยล่าสุดได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในของกลุ่มบริษัท ด้วยการโอนธุรกิจการขายสินค้าผ่าน 3 ช่องทางหลัก (ธุรกิจ B2C) ได้แก่ ธุรกิจออนไลน์ช้อปปิ้ง ทีวีช็อปปิ้ง และเทเลช็อปปิ้ง แก่บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TVDH ถือหุ้น 100% ในราคา 420.5 ล้านบาท ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ การดำเนินงานของบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของโฮลดิ้ง คัมปานี ที่สร้างรายได้หลักแก่บริษัทฯ ในปัจจุบัน สามารถลดค่าใช้จ่ายและมียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากจากการปรับกลยุทธ์ขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ช็อปปิ้ง ทีวีช็อปปิ้งและเทเลช็อปปิ้ง ตลอดจนมุ่งเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีและลดต้นทุนมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนการเข้าร่วมลงทุนในโครงการระบบกระจายสัญญาณใยแก้วนำแสง ที่ติดตั้งภายในอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 451 อาคาร กับบริษัท เฟิร์สไมล์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวางโครงข่ายสายไฟเบอร์ออพติกภายในอาคารและให้เช่าแก่บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ ได้เริ่มทยอยรับรู้จากการร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ในอัตราเดือนละ 3.2 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ต่อเนื่องทุกเดือน เป็นระยะเวลา 9 ปี ขณะที่บริษัท ทีวีดี เอ็ม จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจใหม่เข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทสกุลเงินดิจิทัลและเหมืองขุดบิตคอยน์เริ่มสร้างรายได้และผลกำไรแก่บริษัทฯ แล้ว

สำหรับ บริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จํากัด ที่ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่มีบริการครบวงจร หลังจากขยายสาขาในต่างจังหวัด เช่น พิษณุโลก เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการขยายฐานลูกค้า คาดว่าสาขาที่เปิดให้บริการจะเริ่มทำกำไรในไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่วนบริษัท เอบีพีโอ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจ Business Enabler Platform ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล โดยได้พัฒนาระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ (Fulfillment) และการบริหารกระบวนการทางธุรกิจให้กับองค์กร (Business Process Outsourcing) ได้แก่ การให้บริการทางโทรศัพท์ (Call Center) แล้วเสร็จ และได้เริ่มเปิดบริการซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และบริษัท เอ็กซ์-เพรสโซ่ (ไทย) จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ เน้นลูกค้าพรีเมียมที่เป็นองค์กรและ SMEs โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนธุรกิจและบริการ คาดว่าจะเริ่มมีกำไรในไตรมาส 4 ของปีนี้เช่นกัน ปัจจุบันมีปริมาณสินค้าที่จัดส่งเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 – 1.4 แสนชิ้นต่อวัน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVDH กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เป็นสตาร์ตอัพ หลังจากคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเข้าลงทุนใน บริษัท นาสเกต รีเทล จำกัด ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพผู้พัฒนาจออัจฉริยะและ
ตู้ล็อคเกอร์อัจฉริยะที่เปลี่ยนบ้านให้เป็นทุกอย่าง โดยจะใช้งบลงทุน 8 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 40% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อเข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปีนี้ เพื่อรุกสู่การดำเนินธุรกิจแบบ D2H (Direct to Home) อย่างเต็มตัว

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ “ทีวีดี แคปิตอล” มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน โดย TVDH จะถือหุ้น 100% ในบริษัทดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงและความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เพราะมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่มีมูลค่าสูงกว่าวงเงินสินเชื่อที่ให้แก่ลูกค้า โดยจะมุ่งให้บริการแบบ B2B (Business to Business) ภายใต้แนวคิด B2B Finance Solutions เน้นลูกค้าธุรกิจ ปัจจุบันได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรไว้แล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในปีนี้ ด้วยเงินลงทุน 100 ล้านบาท และเงินกู้หมุนเวียน 200 ล้านบาท

ส่วนบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้เปิดตัว “eatsHUB” แพลตฟอร์มรับ-ส่งอาหารระดับชาติ Food Delivery อย่างเป็นทางการแล้ว ปัจจุบันกำลังขยายฐานผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างรายได้ให้ถึงจุดที่เริ่มทำกำไร

“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นจะลงทุนขยายธุรกิจใหม่ๆ ได้แก่ ธุรกิจทางการเงิน เทคโนโลยี เพื่อสุขภาพ การศึกษา และธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยยุทธศาสตร์ที่วางไว้สู่ซูเปอร์ โฮลดิ้ง คัมปานี จะผลักดันให้บริษัทฯ เริ่มอยู่ในภาวะฟื้นตัวในไตรมาส 3-4 ของปีนี้ โดยวางเป้าหมายทำผลประกอบการเทิร์นอะราวด์” นายทรงพล กล่าว