“ความรักดีๆ” คืออะไร? คำถามสั้นๆ ง่ายๆ แต่การจะตอบให้ถูกได้กลับเป็นเรื่องยาก ซึ่งแน่นอนว่าคำว่า ความรัก ของแต่ละคนมีนิยามไม่เหมือนกัน สำหรับบางคนความรักดีๆ คือการได้เป็นเจ้าของ ได้ครอบครองซึ่งกันและกัน สำหรับบางคนความรักดีๆ ก็คือการมอบแต่สิ่งดีๆ ให้กัน อยู่เคียงข้างกัน หรือสำหรับบางคน ความรักดีๆ อาจเป็นเพียงการที่เราอยากให้อีกฝ่ายมีความสุข โดยที่เราไม่จำเป็นต้องได้รับอะไรกลับมาเลย เป็นความรักในรูปแบบของการให้นั่นเอง
จริงๆ แล้วนิยามของคำว่า ความรักดีๆ อาจจะไม่มีคำตอบตายตัว แต่อาจจะขึ้นอยู่กับว่าเวลาเรามีความรัก เรารักแบบไหน? เราใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต หรือใช้ความรักเป็นเครื่องมือควบคุมชีวิต? และสำหรับความรักหรือความสัมพันธ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม ตัวเราเองรู้สึกว่ามันเป็น “ความรักดีๆ” สำหรับเราแล้วรึยัง? หากยังไม่แน่ใจ อาจลองเช็กลิสต์ 5 ข้อที่บ่งบอกว่า ความรักของคุณเป็นความรักดีๆ Healthy ดีต่อใจ ที่เรานำมาฝาก อาจจะช่วยให้เข้าใจความรักมากขึ้นไม่มากก็น้อย
5 ข้อที่บ่งบอกว่า ความรักของคุณเป็นความรักดีๆ Healthy ดีต่อใจ
มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน
สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการมีความรักดีๆ ก็คือความเข้าใจ ความเข้าใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะหากคนสองคนไม่เข้าใจกัน ทั้งในเรื่องของความแตกต่างทางความคิด การดำเนินชีวิต และลักษณะนิสัยส่วนตัว นอกจากจะทำให้ความรักพังลงแล้ว ยังอาจทำให้เรามีอคติกับอีกฝ่ายแบบไม่มีเหตุผล ลองมองในมุมมองของอีกฝ่าย ทำความเข้าใจว่าแต่ละครอบครัวมีการอบรมและเลี้ยงดูลูกมาไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสิ่งที่เราควรทำคือพยายามเข้าใจกันและกันให้มากที่สุด อย่าทะเลาะหรือใช้อารมณ์เพราะจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง
มีความซื่อสัตย์ต่อกัน
หากเราอยากมีความรักดีๆ แต่ไม่ซื่อสัตย์ต่อกันก็คงจะไปต่อได้ยาก เพราะความไม่ซื่อสัตย์นั้นหมายถึงความไม่จริงใจและคำโกหก ลองคิดดูว่า หากเราเป็นคนเดียวที่จริงจังและจริงใจ ไม่เคยโกหก ในขณะที่อีกฝ่ายทำเหมือนคบเล่นๆ ฆ่าเวลา แทบทุกคำพูดล้วนเป็นคำโกหก เราจะเสียความรู้สึกแค่ไหน? ฉะนั้นหากเรามีความชัดเจนในความรู้สึกก็ควรพูดออกไปตรงๆ รักก็บอกว่ารัก คิดถึงก็บอกว่าคิดถึง หรือถ้าไม่รักก็ควรบอกไปตรงๆ อย่าโกหกหรือปิดบัง ควรซื่อสัตย์ทั้งกับตัวเองและอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด
รับฟังความคิดเห็นของกันและกัน
เวลาที่มีปัญหาหรือเกิดการเข้าใจผิดกัน สิ่งหนึ่งที่มักจะทำให้ความสัมพันธ์พังลงได้ง่ายๆ ก็คือการที่เรา “ไม่ฟัง” ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย ไม่ยอมฟังเหตุผลเวลาที่อีกฝ่ายพยายามอธิบาย สิ่งที่เราทำคือทะเลาะ ถกเถียง พยายามหาคนผิดคนถูก เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมลดทิฐิ หากเรารู้จักที่จะปล่อยผ่านเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปบ้าง เปิดใจรับฟังหรือแชร์ความคิดเห็นกันกับอีกฝ่ายก็จะทำให้รักและเข้าใจกันมากขึ้น
เข้ากับสังคมของอีกฝ่ายได้ดี
สังคมในที่นี้หมายรวมถึงเพื่อนฝูง ครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนรอบข้าง เราอาจจะคิดว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความรักดีๆ นั้นประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ได้มีแค่เรากับคนรักเท่านั้นถึงจะไปกันรอด แต่ต้องประกอบไปด้วยสังคม คนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว ญาติ ฯลฯ มีหลายคู่ที่ต้องเลิกรากันไปเพราะครอบครัวและคนรอบข้างไม่เห็นด้วย หรืออาจจะเป็นฝ่ายเราเองที่เข้ากับที่บ้าน เข้ากับสังคมหรือเพื่อนฝูงของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่หากเราสามารถเข้ากับสังคมของอีกฝ่ายได้ดี หรือคนรักของเราพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับสังคมของเราก็มั่นใจได้เลยว่าเป็นความรักดีๆ ที่เราควรรักษาไว้
ซัพพอร์ตกันได้ทุกเรื่อง
หากเราอยากรู้ว่าความรักความสัมพันธ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่เป็นความรักดีๆ แล้วรึยัง ให้ลองดูว่าต่างฝ่ายต่างซัพพอร์ตกันและกันได้มากแค่ไหน การซัพพอร์ตในเรื่องของความรักก็คือการที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกัน ช่วยเหลือกันเวลามีปัญหา คอยรับฟังเวลาต้องการปรึกษาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ คอยเป็นกำลังใจให้กัน ดูแลเอาใจใส่ ไม่ปล่อยมือทิ้งกันไปง่ายๆ และการมีความรักดีๆ ก็ควรจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นไม่ใช่แย่ลง หากเราเริ่มรู้สึกไม่โอเคกับความสัมพันธ์ก็อาจจะต้องมาทบทวนกันใหม่แล้วล่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก