Site icon DigitalMore.co

Adidas กวาดชัยชนะเหนือ Nike สปอนเซอร์ทีมแชมป์-ยอดขายเสื้อแข่งในวงการฟุตบอลยุโรป

Adidas

การแข่งขันฟุตบอลลีกในยุโรปที่กินเวลากว่า 9 เดือนในฤดูกาล 2016/17 ใกล้สิ้นสุดลงทุกขณะ บางลีกเริ่มได้แชมป์ประจำฤดูกาลกันแล้ว แต่บางลีกอาจต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้าย นั่นคือ บรรยากาศในการแข่งขัน แต่การแข่งขันนอกสนามระหว่างคู่แข่งด้านแบรนด์กีฬาระหว่าง adidas และ Nike ดูเหมือนว่า ปีนี้จะเป็นปีที่แบรนด์เครื่องกีฬาเยอรมนี จะเอาชนะได้อย่างหมดจด

ทีมที่ Adidas เป็นสปอนเซอร์เข้าป้ายแชมป์

ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ (เชลซีเป็นแชมป์) บุนเดสลีกาจากเยอรมนี (บาเยิร์น มิวนิค) กัลโช่ เซเรียอาของอิตาลี (ยูเวนตุส) เอร์ดิวิซีในเนเธอร์แลนด์ (เฟเยนอร์ด) ทีมที่เป็นแชมป์จะสวมเสื้อแข่งขันของอาดิดาสทั้งสิ้น (มียกเว้นที่ลีกเอิงที่จะเป็นไนกี้ เนื่องจากคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง เปแอสเชและโมนาโกใช้เสื้อแข่งของไนกี้)

เท่านั้นยังไม่พอในแมตช์คู่ชิงฟุตบอลยุโรป ไม่ว่าจะเป็นยูโรป้าลีก หรือยูเอฟ่าแชมป์เปี้ยนสลีกคู่ชิง ต่างใช้เสื้อแข่งของอาดิดาส ทำให้ภาพรวมของการเป็นสปอนเซอร์เสื้อแข่งอาดิดาสสามารถกำชัยเหนือไนกี้ได้รอบด้าน

นอกเหนือจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า ในการแข่งขันศึกลาลีกา สเปน ก็มีความเป็นไปได้ว่า แชมป์อาจตกเป็นของเรอัล มาดริด เนื่องจากว่าทีมราชันย์ชุดขาว เตะน้อยกว่าจ่าฝูงบาร์เซโลนา 1 เกม โดยที่ทั้งสองทีมมีแต้มเท่ากัน นั่นจึงทำให้เรอัล มาดริด ที่มีอาดิดาสเป็นสปอนเซอร์อาจกำชัยเหนือไนกี้เพิ่มอีกหนึ่งลีก

Adidas ชนะด้านยอดขายด้วย 

ความเป็นคู่แข่งระหว่างอาดิดาสกับไนกี้ ถือเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจ เพราะหากว่ากันตามตรงแล้ว ไนกี้ถือว่า เป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อกับอาดิดาสมาตลอด ทีมใหญ่ๆ ในระดับโลก ล้วนมีสปอนเซอร์หลักหากไม่ใช่อาดิดาส ก็ย่อมต้องเป็นไนกี้

ทว่าหลังปี 2014 ลงมา เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทำให้ไนกี้ หลุดการเป็นสปอนเซอร์ทีมฟุตบอลยักษ์ใหญ่อย่างต่อเนื่อง เช่น การเสียสปอนเซอร์ทีมฟุตบอลยูเวนตุส (Juventus) และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ให้กับอาดิาส และเสียสปอนเซอร์อาร์เซนอล (Arsenal) ให้กับ Puma

นั่นทำให้เกิดความสงสัยกันว่า ไนกี้อาจจะเน้นลงทุนไปที่ตัวนักฟุตบอลเป็นรายบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจ่ายเงินให้กับสโมสรฟุตบอล แต่ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้อาดิดาสได้แมนฯยูฯ เข้าไปอยู่ในมือ เมื่อรวมกับทีมฟุตบอลที่มีฐานแฟนบอลแน่นอย่าง เรอัล มาดริด และบาเยิร์น มิวนิค ยอดขายเสื้อบอลจากอาดิดาสค่อยๆ สูงขึ้นจนกระทั่งแซงไนกี้ได้ในปี 2016 ราว 500 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามตัวเลขในอีก 2 ปีหลังจากนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการที่เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุดจะหันไปใช้เสื้อแข่งของไนกี้ รวมถึงเรอัล มาดริด ที่มีโอกาสย้ายไปสวมเสื้อแข่งแบรนด์ Under Armour หากการเจรจาต่อสัญญากับอาดิดาสไม่ลงตัว ยอดการขายเสื้อบอลก็อาจลดลงได้เช่นกัน

Exit mobile version