สเปก Huawei P10, Huawei P10 Plus และ Huawei Mate 9 ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติศรัทธา เท่านั้นยังไม่พอจากเหตุการณ์ดังกล่าวกสทช.ให้ความเห็นว่า อาจเข้าข่าย ‘เครื่องเถื่อน’
จากกรณีสเปกเครื่องที่ระบุไว้ต่อสาธารณะชนไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่าย แม้ทาง Huawei จะอ้างว่า ประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยความจำ UFS 2.0 และ UFS 2.1 ไม่แตกต่างกัน รวมถึงการนำข้อความ UFS 2.1 ออกจากหน้าเว็บไซต์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ความเห็นว่า กรณีนี้อาจเข้าค่ายเครื่องเถื่อน
เครื่องเถื่อนในมุมมองกสทช.
นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน้าที่ในการตรวจสอบของกสทช. คือ การตรวจสอบในด้านคลื่นความถี่ที่มาจากอุปกรณ์ เมื่อตรวจสอบทางวิชาการเสร็จสิ้นก็จะได้รับหมายเลขทะเบียนวิทยุคมนาคม (Registration number)
แต่ในกรณีที่เกิดขึ่นนี้ ต้องย้อนกลับไปดูว่า มีการขอนำเข้าอุปกรณ์ที่ระบุมาในใบอนุญาตนำเข้าว่าตรงกับที่ขออนุญาตหรือไม่ หากไม่ตรงตามเอกสาร อุปกรณ์โทรคมนาคมเหล่านั้นจะถือเป็นเครื่องเถื่อน
พร้อมกันนี้นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ระบุว่า ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งกสทช.ยินดีที่จะให้ข้อมูลแก่สคบ.
Huawei ออกแถลงการณ์ชี้แจง แต่ยังไร้แววรับผิดชอบ
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง Huawei ประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องหน่วยความจำของ Huawei Mate 9 Series และ P10 Series แต่ในเนื้อความหลักยังไม่พบเรื่องของการแสดงการขอโทษหรือความรับผิดชอบแต่งอย่างใด และยังกล่าวว่ามาตรฐาน UFS 2.0 และ UFS 2.1 มีความเร็วที่ไม่ต่างกัน โดยกล่าวเพียงว่าถ้าพบปัญหา ให้ไปติดต่อที่ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย สาขา เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เท่านั้น