ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน แดดประเทศไทยก็ทำร้ายผิวเราได้ทุกเมื่อ ยิ่งสำหรับใครที่เป็นคนแพ้แดด ผิวหนังบาง เมื่อออกแดดแล้วก็จะยิ่งได้รับผลกระทบจากแสงแดดอย่างอาการ “ผิวไหม้แดด” ได้ง่าย หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้มีผิวบอบบาง เมื่อเจอความร้อนแรงจากแสงแดดประเทศไทย โดยสัมผัสแสงแดดที่ร้อนจัดโดยตรงเป็นเวลานานกว่า 15 นาที ก็สามารถมีอาการผิวไหม้แดดได้เช่นกัน
อาการผิวไหม้แดดแม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากมีอาการรุนแรงก็จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม สำหรับใครที่กำลังมีอาการผิวไหม้แดด ในบทความนี้เราได้นำ 7 วิธีฟื้นฟูผิวไหม้แดด พร้อมวิธีป้องกัน ทวงคืนผิวให้กลับมาดูสวยสุขภาพดี มาฝาก ถ้ายังไม่อยากสูญเสียผิวสวย ๆ ด้วยการถูกทำร้ายจากแสงแดดล่ะก็ รีบตามไปดูกันเลย!
7 วิธีฟื้นฟูผิวไหม้แดดให้กลับมาดูสวยสุขภาพดี
แช่ตัวในน้ำเย็น
วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดก็คือการลงแช่ในน้ำเย็น ซึ่งน้ำเย็นจะช่วยลดการอักเสบจากอาการผิวไหม้แดดได้ อาจลงแช่ในอ่างอาบน้ำ แช่ตัวในน้ำทะเล หรือแช่ตัวในสระว่ายน้ำ โดยหลีกเลี่ยงสระว่ายน้ำที่มีสารคลอรีนเพราะจะยิ่งทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบมากกว่าเดิม และไม่ควรใช้น้ำแข็งประคบรอยไหม้แดดบนผิว เพราะความเย็นจากน้ำแข็งจะทำให้ผิวเสียได้
ใช้ชาดอกคาโมมายล์ประคบผิว
อย่างที่รู้กันดีว่าชาดอกคาโมมายล์มีสรรพคุณช่วยผ่อนคลาย แต่นอกจากจะช่วยผ่อนคลายได้แล้ว ชาดอกคาโมมายล์ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้ด้วย วิธีการก็ง่าย ๆ แค่แช่ผงชาดอกคาโมมายล์ในน้ำร้อน จากนั้นพักไว้ให้เย็น ใช้ผ้าขนหนูสะอาดจุ่มน้ำชาแล้วนำมาประคบผิวที่มีรอยไหม้แดด หากแพ้เกสรดอกไม้ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวเกิดอาการแพ้หนักขึ้น
ใช้ว่านหางจระเข้ทาผิว
ด้วยสรรพคุณของว่านหางจระเข้ที่สามารถรักษาโรคบางชนิดและอาการอักเสบได้ ว่านหางจระเข้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดที่ไม่รุนแรงได้เช่นกัน โดยในว่านหางจระเข้มีกรดซาลิซิลิกคอยยับยั้งแบคทีเรีย พร้อมทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้จากธรรมชาติ หรือเจลว่านหางจระเข้ 100% ที่ปราศจากสารเคมีและน้ำหอมมาทาลงบนผิวที่ไหม้แดด หรือสามารถใช้สเปรย์ว่านหางจระเข้ 100% เพื่อเลี่ยงการสัมผัสผิวไหม้แดด ป้องกันผิวลอก
บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น
เมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดดร้อนจัดเป็นเวลานานจนเกิดอาการผิวไหม้แดด หลังอาบน้ำเสร็จแล้วให้บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น โดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทนี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ช่วยฟื้นฟูผิวไหม้แดดให้หายเร็วขึ้น และยังช่วยป้องกันผิวลอกได้ด้วย แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย โดยทาลงบริเวณผิวที่ไหม้แดดทันทีหลังอาบน้ำ
งดกิจกรรมที่ต้องออกแดด
บริเวณผิวที่ไหม้แดดจะไวต่อแสงแดดมากเป็นพิเศษ เมื่อสัมผัสกับแสงแดดจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย และยังทำให้ผิวบอบบางมากขึ้น หากจำเป็นต้องออกแดดควรสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกายมิดชิด ทาครีมกันแดดให้ถูกวิธี และหลังออกแดดควรทาผิวด้วยว่านหางจระเข้ 100% ทันที แนะนำเป็นแบบสเปรย์เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสกับผิวไหม้แดดโดยตรง
ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น
ในช่วงที่กำลังมีอาการผิวไหม้แดด เซลล์ผิวของเราจะทำการซ่อมแซมตัวเอง และฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมามีสุขภาพดี โดยในช่วงนี้ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือพอดีตัว เนื่องจากจะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างเสื้อผ้ากับผิวหนัง ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองได้ แนะนำให้เลือกสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ และควรเป็นเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติอย่างผ้าฝ้ายหรือผ้าใยไผ่ เพื่อเป็นการป้องกันการระคายเคืองบริเวณผิวไหม้แดด
ดื่มน้ำให้มากขึ้น
แน่นอนว่าน้ำก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการฟื้นฟูผิวไหม้แดด เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วผิวของเราจะต้องการความชุ่มชื้นในการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง เมื่อมีอาการผิวไหม้แดดแนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว โดยเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และยังเพียงพอต่อการฟื้นฟูสภาพผิวอีกด้วย
วิธีป้องกันผิวไหม้แดด
ปกป้องผิวทั้งก่อนและหลังออกแดด: ก่อนออกแดดทุกครั้งควรทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันแสงแดดหรือ SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และต้องสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ควรทาก่อนออกแดด 30 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง สามารถทาเจลว่านหางจระเข้ หรือเลือกใช้ว่านหางจระเข้แบบสเปรย์ก่อนออกแดด เพื่อป้องกันผิวไหม้แดด และควรทาหลังออกแดดทันทีเพื่อปลอบประโลมผิวหลังโดนแดด
หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ: แสงแดดแรง ๆ หรือแดดที่ร้อนจัดจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 10 โมงเช้าไปจนถึง 4 โมงเย็น หากโดนแดดในช่วงนี้อาจเสี่ยงผิวไหม้แดดได้ง่าย หรือหากจำเป็นจริง ๆ ก็ควรพกร่ม ทาครีมกันแดด และพยายามไม่อยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ
สวมเสื้อผ้าให้มิดชิด: เพื่อป้องกันผิวไหม้แดดควรงดเสื้อผ้าแฟชั่นและเปลี่ยนมาเป็นเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวมิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงหรือกระโปรงยาว สวมหมวกปีกกว้าง พกร่มและแว่นกันแดดติดตัวเสมอ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก