- สมัคร LazPayLater ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง
- สินเชื่อ Shopee SPayLater | ผ่อนของ Shopee ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง
- โปรโมชันส่งฟรี Shopee เดือนนี้ ปี 2566
- Xiaomi Mi Speaker 3 ลำโพงบลูทูธตัวละ 249 บาท เสียงดีมาก
- Lazada Electronics แจกคูปอง 350.- คูปองเงินคืน 20% + คูปองส่งฟรี
- LazBEAUTY เครื่องสำอางลดราคา เงินคืนสูงสุด 50%
มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากซัมซุงมาแนะนำให้รู้จักกัน 2 รุ่น นั้นคือ Samsung Galaxy A23 และ Samsung Galaxy A13 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy A Series มาในคอนเซ็ปต์ “เก่งไม่กั๊ก สเปคคุ้ม ในราคาสบายกระเป๋า” มาพร้อมกับ 3 จุดเด่น กล้องคมชัด 50 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผลใหม่ เร็วแรง และทรงพลัง สุดท้ายแบตเตอรี่ 5,000 mAh อึด ใช้งานได้ทั้งวัน
สาเหตุที่เราเลือก 2 รุ่นนี้มาแนะนำ เพราะใครๆ ก็มองหาสมาร์ทโฟนที่ราคาคุ้มค่าที่สุด ในงบที่ตัวเองจ่ายไหว ที่ตอบสนองได้ทั้งเรื่องใช้งานในชีวิตประจำวัน เล่นโซเซียล ดูหนัง ฟังเพลง ติดต่อสื่อสารกับครอบครัว หรือแม้แต่ใช้ทำงาน ติดต่อลูกค้า อีกทั้ง Galaxy A23 และ Galaxy A13 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งมีวางขายในไทย ด้วยราคาเปิดตัว 6,499 บาท สำหรับ Galaxy A13 และ ราคา 7,999 บาท สำหรับ Galaxy A23
โดยในบทความนี้เราจะรีวิว Samsung Galaxy A23 และ Samsung Galaxy A13 ให้ชมกัน ว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่น และความน่าสนใจอะไรบ้าง จะเร็วแรง แบบไม่กั๊กจริงไหม แต่บอกก่อนว่าเราไม่ได้เปรียบเทียบให้ชมว่ารุ่นไหนดีกว่า เพราะทั้งคู่ราคาแตกต่างกัน แนะนำให้ดูที่งบประมาณที่มีจำกัดของตัวเอง แล้วเลือกสมาร์ทโฟนที่มีสเปคครบในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้
5 จุดเด่นของ Samsung Galaxy A23
ชิปเซ็ต Snapdragon 680 ตัวใหม่ล่าสุด เร็วขึ้น 20%
Galaxy A23 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 ตัวใหม่ล่าสุด เร็ว แรง ทรงพลังกว่าเดิม 20% บนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร เป็น Octa-core 2.4 GHz (Cortex-A73 จำนวน 4 แกน) และ Octa-core 1.9GHz (Cortex-A55 อีก 4 แกน) GPU Adreno 610 และสุดท้ายหน่วยประมวลผล AI Hexagon 686 รองรับหน้าจอสูงสุด 90Hz บนความละเอียด Full HD+ ด้วย ด้วยชิปเซ็ตนี้เลยทำให้รุ่นนี้มีอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz มาให้ใช้ด้วย
พร้อมด้วยหน่วยความจำ 128GB แบบ eMMC 5.1 แรม 6GB พร้อมเทคโนโลยี RAM Plus ที่สามารถนำหน่วยความจำเครื่อง มาเพิ่มเป็นแรมได้อีก 6GB ทำให้สามารถใช้ Ram ได้ถึง 12GB
ยิ่งไปกว่านั้น มาพร้อมกับช่องใส่ซิมแบบ Triple-Slot สามารถใส่ได้ 2 ซิม และยังเพิ่ม microSD ได้สูงถึงถึง 1TB เลยทีเดียว ใครที่คิดว่าหน่วยความจำในเครื่อง 128GB ไม่เพียงพอ จัดไปกับ microSD ได้สูงถึงถึง 1TB เก็บรูป เก็บหนัง เก็บไฟล์ต่างๆ ได้แบบจุใจ
กล้องหลัง 4 ตัว เก็บครบทุกรายละเอียดในทุกสภาพแสง
จะซื้อสมาร์ทโฟน 3 กล้องไปทำไม ? ในเมื่อราคานี้ได้ถึง 4 กล้อง! Galaxy A23 มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว สามารถเก็บครบทุกรายละเอียดในทุกสภาพแสง ด้วยกล้องหลักความคมชัด 50 ล้านพิกเซล มีแฟลช LED
พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS (มีเหมือนกับรุ่นท็อปอย่าง Galaxy A53) ถ่ายชัดทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ไม่มีเบลอ ขยายมุมมองให้กว้างขึ้นด้วย Ultra Wide Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มุม 123 องศา คล้ายกับมุมมองด้วยตาของมนุษย์ เก็บภาพความชัดลึกด้วยกล้อง Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และสุดท้ายถ่ายภาพระยะใกล้ด้วย Macro Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ยังไม่จบ! เพราะกล้องหน้าก็จัดให้แบบคมๆ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีเอฟเฟกต์โบเก้ ช่วยให้ถ่ายเซลฟีให้ตัวเองดูโดดเด่นกว่าฉากหลังได้ง่าย ๆ
แบตอึดจุใจ 5,000mAh พร้อม Fast charge 25W
ทุกวันนี้ยังพก PowerBank กันอยู่ไหม? ถ้าเป็นอีกคนที่ขี้เกียจพก PowerBank ไปไหนมาไหนด้วยทุกที่ ต้องเลือกสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่เยอะๆ แต่เยอะอย่างเดียวไม่เพียงพอ ระบบจัดการพลังงานของตัวเครื่องต้องดีด้วย Galaxy A23 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานแบบเต็มวันโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน ลืม PowerBank ที่พกอยู่ทุกวันไปได้เลย
ความน่าสนใจคือจะมีระบบเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละบุคคล ทำให้เราสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนคู่โปรดได้แบบตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างวัน
นอกจากนั้นยังมีโหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ออกไปให้มากขึ้นได้อีกด้วย รวมถึงมีระบบปกป้องแบตเตอรี่ ช่วยยืดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ให้นานขึ้น เสื่อมช้าลง โดยการจำกัดการชาร์จสูงสุดที่ 85%
แต่ยังก่อน! เพราะแค่แบตเตอรี่อึดไม่พอแล้ว ทุกวันนี้ต้องชาร์จเร็วได้ด้วย โดย Galaxy A23 รองรับการชาร์จเร็วที่ 25W ระดับเดียวกันกับเรือธงอย่าง Galaxy S21
จอใหญ่เต็มตา 6.6 นิ้ว สีสันสมจริง FHD+
ปัจจุบันสมาร์ทโฟน 6 นิ้วอาจจะดูเล็กไปสำหรับหลายๆ คน Galaxy A23 จึงจัดมาให้ที่ 6.6 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ Infinity-V มีกล้องหน้าอยู่บนสุดแบบหยดน้ำ ทำให้ไม่มีกล้องมาบังหน้าจอ ใช้หน้าจอแบบ PLS TFT LCD ความละเอียด 1080 x 2408 (FHD+) แสดงผลได้ 16 ล้านสี จอใหญ่เต็มตา และสีสันสมจริง มอบอัตรารีเฟรชที่ 90Hz สมูท ลื่นไหล ตอบสนองทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ แสดงผลได้เต็มตา หรือทำงาน อ่านอีเมล ตอบอีเมล พิมพ์ข้อความ ทำได้ลื่นไหล ขาโซเซียล ตอบแชทก็ทำได้ดีเยี่ยม
ดีไซน์เรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบ
Galaxy A23 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์เรียบง่าย แต่มีความสวยงาม เรียบหรูน่าใช้งาน มาพร้อมกับฝาหลังแบบมันวาว มีขอบแบบโค้งมน รับกับมือพอดี ทำให้จับถนัด ถือใช้งานสะดวก ถูกออกแบบมาให้มีความบางเฉียบและสมมาตรอย่างสมดุล
โมดูลกล้องออกแบบมาให้ดูกลมกลื่นกับตัวเครื่องได้อย่างน่าประทับใจ และความน่าสนใจคือการเลือกใช้สี มาพร้อมกับ 3 สี คือ สีดำ (Black), ฟ้า (Blue) และพีช (Peach) แน่นอนว่าสีที่ดูสวยสุดน่าจะเป็นสีพีช เพราะแปลกใหม่ในวงการสมาร์ทโฟนมากๆ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สีสันสวยๆ จนไม่อยากจะใส่เคสเลย อยากถือโชว์เครื่องสวยๆ เวลาใช้งาน
รีวิว Samsung Galaxy A23
มาพร้อมกับหน้าจอ PLS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ที่ 400 ppi แสดงผลได้ 16 ล้านสี มอบสีสันที่สมจริง ความละเอียด FULL HD+ 1080 x 2408 pixels อัตรารีเฟรช 90Hz อัตราส่วนการแสดงผล 20:9 หน้าจอแสดงผลคิดเป็น 83% ของพื้นที่ขนาดตัวเครื่อง เสริมความแข็งแรงของหน้าจอด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
กล้องหน้าแบบหยดน้ำ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 พร้อมทำให้รายละเอียดดูโดดเด่นได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ สามารถใช้งานร่วมกับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้าได้ ส่วนปุ่มควบคุมแบบสัมผัส 3 ปุ่ม รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล สามารถปรับแต่งตำแหน่งของปุ่มได้
ด้านล่างของตัวเครื่องมาพร้อมกับช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. รูไมโครโฟน ช่องต่อ USB Type C 2.0 รองรับ Fast charge 25W สุดท้ายเป็นช่องของลำโพงตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีรูไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับใช้งานเป็นตัวตัดเสียงรบกวนเวลาสนทนา ตัวเครื่องรองรับ GPS A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac ต่อ Wi-Fi 5GHz ใช้เน็ตแรงๆ ได้ มาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 รองรับ A2DP, LE
ด้านซ้ายมือจะมีช่องถาดซิมแบบ Triple-Slot สามารถใส่ได้ 2 ซิม และยังเพิ่ม microSD ได้สูงถึง 1TB เลยทีเดียว ใครที่คิดว่าหน่วยความจำในเครื่อง 128GB ไม่เพียงพอ จัดไปกับ microSD ได้สูงถึงถึง 1TB เก็บรูป เก็บหนัง เก็บไฟล์ต่างๆ ได้แบบจุใจ ชอบความใส่ใจตรงนี้ เพราะถาดซิมจะมีสีเดียวกับตัวเครื่องเลย
ด้านขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง โดยตัวปุ่ม Power จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมอยู่ด้วย ส่วนตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่ที่ 195 กรัม ขนาด 164.5 x 76.9 x 8.4 มม.
ฝาหลังมาในดีไซน์มันวาว แต่สัมผัสไม่ลื่น มั่นใจได้ว่าจับถนัดมือ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำหลุด ผิวไม่มีความลื่น และที่สำคัญ ไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือด้วย ถ้ากลัวเป็นรอยแนะนำหาเคสใสมาใส่ เพราะดีไซน์เครื่องสวยอยู่แล้ว
อย่างที่กล่าวไว้ข้างบนตัวโมดูลกล้องออกแบบมาให้ดูกลมกลื่นกับตัวเครื่องมากๆ มาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว ดังนี้
- Rear: 50MP รูรับแสง F1.8 มี OIS มี Auto Focus รองรับ Digital Zoom 10x
- Ultra wide: 5MP รูรับแสง F2.2
- Depth: 2MP รูรับแสง F2.4
- Macro: 2MP รูรับแสง F2.4
นอกจากนั้นยังรองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด UHD 4K (3840 x 2160) @30fps (เฟรมต่อวินาที) รองรับ Slow Motion 120fps @HD
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพที่ตัวอย่างที่อัพโหลดในรีวิวถูกลดขนาดไฟล์ลง หากต้องการดูภาพขนาดเดิมที่ไม่ถูกลดขนาดไฟล์ดูเพิ่มตเิมได้ที่ Galaxy A23 | Flickr
กล้องหน้า
ภาพกล้องหน้ามุมปกติ
ภาพกล้องหน้ามุมกว้าง
ภาพกล้องหน้าเพิ่มเติม
กล้องหลัง
ภาพ Portrait กล้องหลัง
ภาพกล้องหลัก
ภาพกล้อง Ultra wide
ภาพกล้องหลักอื่นๆ
5 จุดเด่นของ Samsung Galaxy A13
เร็วแรงกว่าเดิม 30% พร้อม Ram plus 4+4GB
Galaxy A13 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 850 (เคยใช้ใน Galaxy A12 ที่เราเคยรีวิวให้ชมด้วย) ที่สร้างบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร เร็วแรง ทรงพลังกว่าเดิม 30% ด้วย มาพร้อมกับซีพียู ARM Cortex-A55 ทั้งหมด 8 แกน ความเร็วสูงสุดที่ 2.0GHz และ GPU ใช้เป็น Mali-G52 สามารถทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR4X และหน่วยความจำ eMMC 5.1 รองรับหน้าจอแสดงผลความละเอียด Full HD+ และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p@60fps
พร้อมแรม 4GB เล่นลื่น ไม่สะดุด ช่วยให้การเปิดแอป เล่นแอป สลับแอปโปรดของเราได้อย่างไหลลื่นโดยไม่สะดุด และรองรับเทคโนโลยี RAM Plus ที่สามารถนำหน่วยความจำเครื่อง มาเพิ่มเป็นแรมได้อีก 4GB ทำให้ใช้ Ram ได้ถึง 8GB
พร้อมด้วยหน่วยความจำ 128GB แบบ eMMC 5.1 มาพร้อมกับช่องใส่ซิมแบบ Triple-Slot สามารถใส่ได้ 2 ซิม และยังเพิ่ม microSD ได้สูงถึงถึง 1TB เลยทีเดียว เก็บรูป เก็บหนัง เก็บไฟล์ต่างๆ ได้แบบจุใจ ไร้กังวล
กล้องหลัง 4 เลนส์ ถ่ายชัดทุกสภาพแสง
มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 เลนส์ กล้องหลักความคมชัด 50 ล้านพิกเซล ในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาเริ่มต้น Galaxy A13 ให้กล้องจัดเต็มแบบไม่กั๊กจริง ๆ สามารถถ่ายชัดทุกสภาพแสง ขยายมุมมองให้กว้างขึ้นด้วย Ultra Wide Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มุม 123 องศา คล้ายกับมุมมองด้วยตาของมนุษย์ ปรับโฟกัสได้ตามใจด้วย Depth Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และถ่ายเก็บรายละเอียดแบบใกล้ ๆ ด้วย Macro Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่สำคัญในบรรดาสมาร์ทโฟนในช่วงราคานี้ Galaxy A13 ให้กล้องมาครบที่สุด ทั้ง lens หลัก 50MP, lens depth, macro และ ultra wide จะไม่ให้น่าสนใจได้อย่างไร
มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีภาพมุมกว้างและมุมปกติให้เลือกใช้งาน และโหมดหน้าเนียน หน้าสวย และมีเอฟเฟกต์โบเก้ ช่วยให้ถ่ายเซลฟีให้ตัวเองดูโดดเด่นกว่าฉากหลังได้ง่าย ๆ
แบตเตอรี่ 5,000 mAh ใช้ได้ยาวนานตลอดวัน
มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5000mAh มากพอที่จะทำให้เราสามารถใช้งานได้ยาวต่อเนื่องตลอดทั้งวัน มีระบบเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละบุคคล ในช่วงแรกของการใช้งานอาจจะรู้สึกว่าแบตหมดแต่ ต้องรอให้ระบบเรียนรู้วิธีใช้งานไปสักพัก ด้วยฟีเจอร์นี้จะทำให้เราสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนคู่โปรดได้แบบตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างวัน
นอกจากนั้นยังมีโหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ออกไปให้มากขึ้นได้อีกด้วย รวมถึงมีระบบปกป้องแบตเตอรี่ ช่วยยืดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ให้นานขึ้น เสื่อมช้าลง โดยการจำกัดการชาร์จสูงสุดที่ 85%
ในเมนูตั้งค่าแบตเตอรี่สามารถเลือกเปิด-ปิดฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วได้ โดยรองรับ Fast charging 15W
จอใหญ่เต็มตา 6.6 นิ้ว สีสันสมจริง FHD+
หมดยุคสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก จะได้หน้าจอเล็กๆ แล้ว เพราะ Galaxy A13 ให้หน้าจอใหญ่มาถึง 6.6 นิ้ว แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะถือไม่ถนัด เพราะด้วยหน้าจอแบบ Infinity-V Display กล้องหน้าแบบหยดน้ำ ทำให้มีขอบจอที่บางมากๆ แทบจะไร้ขอบ จึงทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่จนถือลำบาก หรือใช้งานไม่ถนัด มอบอรรถรสในการใช้งาน รับชมเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ PLS TFT LCD ที่ให้สีสันสมจริงมากๆ แสดงผลมากถึง 16 ล้านสี ความละเอียด Full HD+
ดีไซน์สวยสีสันโดนใจคนยุคใหม่
ถ้าเคยเจอสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่ดีไซน์เชยมา ให้ลืมภาพนั้นไป เพราะ Galaxy A13 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่มีดีไซน์มินิมอล เข้ากับยุคปัจจุบันมากๆ ที่หลายคนหันมาเลือกใช้สินค้าที่มีความมินิมอลมากขึ้น โดย Galaxy A13 มาพร้อมกับดีไซน์ของตัวเครื่องที่เน้นความเรียบง่าย มีความโค้งมน ทำให้ถือได้อย่างสะดวก ใช้งานได้อย่างง่ายดาย และการเลือกใช้สีที่ผสมผสานลุคสีอ่อนโยน มีให้เลือกในสีดำ (Black) , ฟ้า (Blue) และพีช (Peach)
รีวิว Samsung Galaxy A13
มาพร้อมกับหน้าจอ PLS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ที่ 400 ppi สีสันที่สมจริง แสดงผลได้ 16 ล้านสี ความละเอียด FULL HD+ 1080 x 2408 pixels อัตราส่วนการแสดงผล 20:9 หน้าจอแสดงผลคิดเป็น 83.2% ของพื้นที่ขนาดตัวเครื่อง เสริมความแข็งแรงของหน้าจอด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
กล้องหน้าแบบหยดน้ำ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 มีเอฟเฟกต์โบเก้ ถ่ายได้ 2 มุมคือมุมกว้างและมุมปกติ ถ่ายวีดีโอความละเอียด 1080p@30fps สามารถใช้งานร่วมกับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้าได้ ส่วนปุ่มควบคุมแบบสัมผัส 3 ปุ่ม รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล สามารถปรับแต่งตำแหน่งของปุ่มได้
ด้านล่างของตัวเครื่องมาพร้อมกับช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. รูไมโครโฟน ช่องต่อ USB Type-C 2.0 รองUSB On-The-Go รองรับ Fast charging 15W สุดท้ายเป็นช่องของลำโพงตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีรูไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับใช้งานเป็นตัวตัดเสียงรบกวนเวลาสนทนา ตัวเครื่องรองรับ GPS A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac ต่อ Wi-Fi 5GHz ใช้เน็ตแรงๆ ได้ รองรับ Wi-Fi Direct ด้วย มาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 รองรับ A2DP, LE
ช่องถาดซิมแบบ Triple-Slot สามารถใส่ได้ 2 ซิม และยังเพิ่ม microSD ได้โดยไม่ต้องเบียดโควต้าซิมการ์ด และเพิ่มได้สูงถึง 1TB เลยทีเดียว เก็บรูป เก็บหนัง เก็บไฟล์ต่างๆ ได้แบบจุใจ ถาดซิมน่ารักๆ สีพีชแบบเดียวกับสีตัวเครื่องเลย
ด้านขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง โดยตัวปุ่ม Power จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมอยู่ด้วย ทำงานได้รวดเร็ว ตำแหน่งอยุ่พอดีกับนิ้วชี้ ตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่ที่ 195 กรัม ขนาด 165.1 x 76.4 x 8.8 มม.
ฝาหลังมาในดีไซน์มันวาว แต่สัมผัสไม่ลื่น จับถนัดมือ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำหลุด เกิดคราบรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก (อาจจะเห็นบ้าง แต่ไม่ชัด) ถ้ากลัวเป็นรอยแนะนำหาเคสใสมาใส่ เพราะดีไซน์เครื่องสวยอยู่แล้ว
โมดูลกล้องไม่นูนออกจากตัวเครื่อง มีแค่ส่วนของขอบเลนส์ที่นูนออกมาเล็กน้อย การวางตำแหน่งดูกลมกลื่นกับตัวเครื่องมากๆ มาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว ดังนี้
- Rear: 50MP รูรับแสง F1.8 มี Auto Focus รองรับ Digital Zoom 10x
- Ultra wide: 5MP รูรับแสง F2.2
- Depth: 2MP รูรับแสง F2.4
- Macro: 2MP รูรับแสง F2.4
นอกจากนั้นยังรองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด FHD (1920 x 1080) @30fps (เฟรมต่อวินาที)
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพที่ตัวอย่างที่อัพโหลดในรีวิวถูกลดขนาดไฟล์ลง หากต้องการดูภาพขนาดเดิมที่ไม่ถูกลดขนาดไฟล์ดูเพิ่มตเิมได้ที่ Galaxy A13 | Flickr
กล้องหน้า
ภาพกล้องหน้ามุมปกติ
ภาพกล้องหน้ามุมกว้าง
ภาพกล้องหน้าเพิ่มเติม
กล้องหลัง
ภาพ Portrait กล้องหลัง
ภาพกล้องหลัก
ภาพกล้อง Ultra wide
ภาพกล้องหลักอื่นๆ
จุดเด่นที่จะได้ เมื่อเลือก Samsung Galaxy
One UI 4 บนพื้นฐานของ Android 12
มาพร้อมกับอินเตอร์เฟส One UI 4.1 รันบน Android 12 ถูกพัฒนามาให้ผสานการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการปล่อยอัปเดต FW ให้อย่างต่อเนื่อง สามารถเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม สลับใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างไหลลื่น
อินเตอร์เฟส One UI ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปแล้ว มีจุดเด่นเรื่องความลื่นไหล การตอบสนองการใช้งานที่มีครบ มีความสวยงาม ปรับแต่งได้ตามใจ และใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องเรียนรู้วิธีใช้ อินเตอร์เฟสมีความเรียบ เบา และตัวอินเตอร์เฟสที่ลื่นไหลไม่หน่วงไม่กระตุก สลับแอปไปมาได้รวดเร็ว และที่สำคัญไม่แอบแฝง หรือฝั่งแอปที่เกินความจำเป็นมาให้ มีฟีเจอร์ติดตั้งแอปอัตโนมัติ โดยเราเลือก เพศ และช่วงอายุ ระบบจะแนะนำว่ามีแอปอะไรที่น่าสนใจ หรือกลุ่มคนอายุนี้ เพศนี้ใช้งานกันเยอะๆ บ้าง ทำให้สะดวกต่อการเริ่มต้นใช้งานมากๆ
รองรับกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Galaxy Eco System
หากเราใช้สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy การเชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับ Galaxy Eco System เป็นอะไรที่ง่าย และสะดวกมากๆ ไม่ต้องกดค้นหาให้เหนื่อยเปิดมาแค่รอกดปุ่มตกลง ก็เชื่อมต่อได้ทันที แม้จะเป็นการเชื่อมต่อครั้งแรกก็ตาม โดยรองรับมากมาย อาทิ Galaxy Buds Pro, Galaxy Buds Live, Galaxy Buds+, Galaxy Buds, Galaxy Buds2, Galaxy Fit, Galaxy Fit e, Galaxy Watch, Galaxy Watch Active, Galaxy Watch Active2, Gear Fit2, Gear Fit2 Pro, Gear Sport, Gear S2, Gear S3, Gear IconX, Gear IconX (2018) เป็นต้น
ปล. ขายแยกนะครับ ไม่ได้แถมในกล่อง
Dolby Atmos
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos รองรับทั้งหมดฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม โดย Dolby Atmos รองรับเฉพาะชุดหูฟังสเตอริโอและลำโพง Bluetooth เท่านั้น และ Dolby Atmos สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อได้เปิดใช้งาน Dolby Atmos ใน Settings
Game Booster
Game Booster ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมของเราได้สูงขึ้นช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมบนเครื่องนี้ทำได้ดีขึ้น และจำกัดกิจกรรมที่อาจจะขึ้นมาขัดจังหวะการเล่นเกม โดย Game Turbo จะให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ปรับแต่งได้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพอัตราเฟรม ดึงความสามารถของระบบมาโฟกัสที่การเล่นเกม เพิ่มความลื่นไหลและความเสถียรของการเกม การเร่งความเร็วสัมผัส และทำให้ระบบสัมผัสประสิทธิภาพดีขึ้น อัตรารีเฟรชเรทคงที่ การเล่นเกมทำได้อย่างต่อเนื่องแม้แบนด์วิดท์เครือข่ายลดลง เพิ่มประสิทธิภาพของ Wi-Fi ลดความล่าช้าของ Wi-Fi เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการสัมผัสตอบสนองการสัมผัสได้ดีขึ้น
นอกจากนั้นยังเฝ้าระวังอุณภูมิของตัวเครื่อง และค่อยจัดการกับหน่วยความจำ ให้เพียงพอต่อการเล่นเกม
Samsung Knox
Samsung Knox ระบบรักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่งของซัมซุง ที่ถูกใช้ในทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตัวท็อปของแบรนด์ ถูกใส่มาในรุ่นนี้ด้วย Samsung Knox จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเราจากมัลแวร์ และการจู่โจมจากผู้ไม่ประสงค์ดีส่วนใหญ่ ด้วยแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยแบบยกระดับทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Knox ที่ช่วยปกป้องสมาร์ทโฟนจากการโจมตีทางไซเบอร์ ด้วยนวัตกรรมด้านปลอดภัยสูงสุดของซัมซุง
สรุป
Samsung Galaxy A23 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็ก สเปคคุ้ม แบบเก่งไม่กั๊กตรงคอนเซ็ปท์จริงๆ ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 ตัวใหม่ล่าสุด เร็ว แรง ทรงพลังกว่าเดิมถึง 20% คมชัดทุกรายละเอียดด้วยกล้อง 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ OIS กันสั่น ถ่ายภาพชัดไม่มีเบลอ ทั้งภาพและวีดีโอ ใช้งานได้เต็มอิ่มจุใจกับแบตเตอรี่ 5,000mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน พร้อม Fast charge 25W
Samsung Galaxy A23 วางขายในราคาสบายกระเป๋า 7,999 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ (Black), ฟ้า (Blue) และพีช (Peach) โปรโมชั่นผ่อน 0% 15 เดือน เพียงเดือนละ 534 บาท ได้ที่ Samsung Experience Store, samsung.com และร้านค้าที่ร่วมรายการ
ช่องทางสั่งซื้อ
Samsung Galaxy A13 เป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะด้วยสเปคคุ้มมาก และเก่งแบบไม่กั๊กอีกเช่นกัน ด้วยราคาสบายกระเป๋า ที่เร็ว แรง ทรงพลัง ด้วยชิปเซ็ต Exynos 850 พร้อม Ram plus 4+4GB ลื่นไหลไม่มีสะดุด มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ กล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว หาตัวจับได้ยากในราคานี้ สามารถเก็บทุกโมเม้นสำคัญให้คมชัดด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ถ่ายชัดทุกสภาพแสง และใช้งานได้ตลอดทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ 5,000 mAh
Samsung Galaxy A13 วางขายในราคา 6,499 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ (Black), ฟ้า (Blue) และพีช (Peach) สามารถหาซื้อได้ที่ Samsung Experience Store, samsung.com และร้านค้าที่ร่วมรายการ
ช่องทางสั่งซื้อ